น้ำแร่ดีกว่าแน่หรือ?
ถ้าให้พูดถึง “น้ำแร่” หลายๆ คนคงนึกถึงภาพของน้ำดื่มที่มาพร้อมสรรพคุณที่อ้างว่าดีต่อสุขภาพกว่าการดื่มน้ำเปล่าธรรมดา
ถ้าให้พูดถึง “น้ำแร่” หลายๆ คนคงนึกถึงภาพของน้ำดื่มที่มาพร้อมสรรพคุณที่อ้างว่าดีต่อสุขภาพกว่าการดื่มน้ำเปล่าธรรมดา เพราะว่ามีแร่ธาตุหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเมื่อประกาศว่าไม่ใช่น้ำธรรมดา ราคาของน้ำแร่ก็เลยต้องพิเศษตามไปด้วย น้ำแร่ขนาด 1.5 ลิตรบางยี่ห้อ (โดยเฉพาะที่บอกว่าเป็นน้ำแร่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติในต่างประเทศ) อาจมีราคาเฉียดร้อย!!!
เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวจากทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาเตือนคนที่ชอบนิยมดื่มน้ำแร่เป็นประจำว่า มีโอกาสเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณที่สูงเกินความจำเป็น น้ำแร่เป็นน้ำที่ได้จากใต้ดินจากแหล่งกำเนิดน้ำตามที่ต่างๆ เช่น บนภูเขา น้ำพุร้อนใต้ผิวโลก จะมีแร่ธาตุต่างๆ เป็นส่วนผสม เช่น ฟลูออไรด์ แมงกานีส ฯลฯ ซึ่งพวกแร่ธาตุเหล่านี้มีปริมาณที่เป็นมาตรฐานที่เหมาะสมกับร่างกาย
ตัวอย่างเช่น ฟลูออไรด์สำหรับดื่มค่ามาตรฐานไม่ควรเกิน 0.7 มิลลิลิตร/ลิตร หากเกินจากนี้อาจมีผลต่อกระดูกและฟัน ธาตุเหล็กไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัม/ลิตร แมงกานีสไม่เกิน 0.3 มิลลิกรัม/ลิตร ทองแดงไม่เกิน1.0 มิลลิกรัม/ลิตร และสังกะสีไม่เกิน 5.0 มิลลิกรัม/ลิตร
นิตยสารฉลาดซื้อเคยทดสอบดูการปนเปื้อนของแร่ธาตุที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในน้ำแร่ ไม่ว่าจะเป็น ตะกั่ว แคดเมียม ซึ่งอยู่ในกลุ่มโลหะหนัก และไนเตรตกับไนไตรท์ ซึ่งถือเป็นสารก่อมะเร็ง โดยการสำรวจได้เก็บตัวอย่างน้ำแร่ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดจำนวน 24 ตัวอย่าง พบว่าหลายตัวอย่างมีการปนเปื้อนของแร่ธาตุทั้ง 4 ชนิด
แต่มีข่าวดีก็คือปริมาณของแร่ธาตุที่พบยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมาก แต่หากดื่มเป็นประจำทุกวันๆ ก็อาจมีความเสี่ยงจากการสะสมแร่ธาตุอันตรายเหล่านี้ในร่างกาย
ฉะนั้น น้ำแร่น่าจะเป็นแค่ทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ไม่เหมาะจะนำมาใช้บริโภคแทนน้ำดื่มปกติทั่วไป แม้น้ำแร่จะมีการโฆษณาว่าแร่ธาตุหลายอย่างที่ประโยชน์กับร่างกายผสมอยู่ แต่ถ้าอ่านดูปริมาณส่วนประกอบในฉลากจะพบว่าแร่ธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำแร่นั้นมีปริมาณน้อยมาก เรียกว่าไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งร่างกายของเราสามารถได้รับแร่ธาตุต่างๆ อย่างเพียงพออยู่แล้ว จากการทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเหมาะสมครบทั้ง 5 หมู่
ใครที่อยากรู้ข้อมูลดีๆ เรื่องผู้บริโภค สามารถติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร “ฉลาดซื้อ” นิตยสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผู้บริโภค www.ฉลาดซื้อ.com, www.facebook.com/chaladsue และโทร. 02-248-3737


