posttoday

ทำพินัยกรรมไว้เถอะ

13 พฤษภาคม 2556

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ได้มีคนสอบถามเรื่องการวางแผนการเงินสำหรับทายาทมาเยอะว่ามีหลักการวางแผนอย่างไร จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินสำหรับทายาทก็มีส่วนคล้ายกับการวางแผนการเงินสำหรับตัวเราเอง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน ภาษี การบริหารความเสี่ยง ฯลฯ แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยและหลักการที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมาย เพราะถ้าไม่เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างถูกต้อง ทรัพย์สมบัติที่เราเตรียมให้ทายาทของเราก็อาจตกเป็นของผู้อื่น กรณีศึกษาที่เป็นข่าวดังในอดีต ผมคงยกให้กรณี “แพะเชอรี่ แอน” ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2529 ในกรณีดังกล่าว เงินสินไหมทดแทนกว่า 10 ล้านบาท ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจ่ายให้กับทายาทของแพะรายหนึ่ง ทายาทเกือบไม่ได้รับ ก็เพราะประเด็นเรื่องพินัยกรรมนี่แหละ

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ได้มีคนสอบถามเรื่องการวางแผนการเงินสำหรับทายาทมาเยอะว่ามีหลักการวางแผนอย่างไร จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินสำหรับทายาทก็มีส่วนคล้ายกับการวางแผนการเงินสำหรับตัวเราเอง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน ภาษี การบริหารความเสี่ยง ฯลฯ แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยและหลักการที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมาย เพราะถ้าไม่เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างถูกต้อง ทรัพย์สมบัติที่เราเตรียมให้ทายาทของเราก็อาจตกเป็นของผู้อื่น กรณีศึกษาที่เป็นข่าวดังในอดีต ผมคงยกให้กรณี “แพะเชอรี่ แอน” ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2529 ในกรณีดังกล่าว เงินสินไหมทดแทนกว่า 10 ล้านบาท ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจ่ายให้กับทายาทของแพะรายหนึ่ง ทายาทเกือบไม่ได้รับ ก็เพราะประเด็นเรื่องพินัยกรรมนี่แหละ

ในวันนี้ผมจึงขอนำบทความเกี่ยวกับการทำพินัยกรรมของคุณจิร ชัยศิริ ผู้บริหารท่านหนึ่งของเครือธนาคารเกียรตินาคินมาเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านที่สนใจครับ

“เห็นว่ามีคำถามเกี่ยวกับการทำพินัยกรรมเข้ามามากว่าจะทำพินัยกรรมอย่างไรดี จะเขียนเองได้ไหม จะจ้างทนายความพิมพ์ได้ไหม จะให้ผู้ใหญ่บ้านทำให้ได้ไหม ทำแล้วใช้บังคับได้หรือไม่ ทำแล้วจะเอาไปเก็บซ่อนไว้ที่ไหน เพราะเกรงว่าถ้าหากลูกๆ รู้ว่ามีการทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้ไม่เป็นที่ถูกใจ ก็อาจกลายเป็นผลร้ายกับตัวเองได้

ฉบับนี้ผู้เขียนขอสรุปย่อๆ เรื่องการทำพินัยกรรมเบื้องต้นก็แล้วกันนะครับ แล้วแต่ว่าจะเลือกแบบไหน

1.ในพินัยกรรมต้องมีข้อความระบุไว้ให้รู้ว่าเป็นพินัยกรรม เช่น “ข้าพเจ้าขอทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น เพื่อแสดงว่า เมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมลง บรรดาทรัพย์สินของข้าพเจ้าทั้งหมด (หรือตามรายการที่ระบุไว้นี้) ให้เป็นมรดกตกได้แก่บุคคลที่ข้าพเจ้าระบุไว้ดังต่อไปนี้...” เรียกว่า จะยกให้ลูก ให้หลาน ให้วัด ก็ได้ทั้งนั้น

2.ทำตามแบบของพินัยกรรม มี 5 แบบ คือ

2.1 พินัยกรรมแบบธรรมดา (นิยมทำกันมาก) ต้องทำเป็นหนังสือ (พิมพ์หรือเขียนก็ได้ จะมอบหมายให้ใครพิมพ์หรือเขียนก็ได้ด้วย) ลงวันเดือนปีขณะทำพินัยกรรม ผู้ทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน

(ข้อสังเกต เรื่องพยานอย่างน้อย 2 คน เช่น ถ้าลงชื่อพยานและผู้เขียน 1 คน และลงชื่อพยาน 1 คน ก็นับเป็นพยาน 2 คน แต่ถ้าลงชื่อพยาน 1 คน และลงชื่อผู้เขียน 1 คน ก็ถือว่ามีพยาน 1 คนเท่านั้น นอกจากนี้คนที่เป็นพยานต้องลงลายมือชื่อเท่านั้น จะพิมพ์ลายนิ้วมือไม่ได้ และที่สำคัญต้องลงลายมือชื่อพยาน 2 คนพร้อมกันต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรมด้วย สำหรับกรณีผู้ทำพินัยกรรมลงลายพิมพ์นิ้วมือก็ต้องให้พยานลงลายมือชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือด้วย)

2.2 พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนข้อความเองทั้งหมดทั้งฉบับ จะเขียนบ้างพิมพ์บ้างไม่ได้ และต้องลงลายมือชื่อไว้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องมีพยานก็ได้

2.3 พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง ต้องไปหานายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตให้เป็นผู้จัดทำให้ โดยผู้ทำพินัยกรรมและพยาน 2 คนลงลายมือชื่อในพินัยกรรมแล้ว นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตจะเขียนรับรองพินัยกรรม พร้อมประทับตราประจำตำแหน่ง

2.4 พินัยกรรมแบบเอกสารลับ ผู้ทำพินัยกรรมเขียนหรือพิมพ์เอง หรือให้ผู้อื่นทำให้ก็ได้ เมื่อลงลายมือชื่อในพินัยกรรมแล้วให้ใส่ซองปิดผนึก และลงลายมือชื่อตรงรอยผนึกนั้น พร้อมทั้งนำพยาน 2 คนไปให้ถ้อยคำต่อนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตเพื่อบันทึกไว้บนซองเอกสารนั้น โดยให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงลายมือชื่อไว้บนซอง และให้นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตเก็บรักษาไว้

2.5 พินัยกรรมแบบวาจา ต้องเป็นในภาวะฉุกเฉินเท่านั้น เช่น มีอุบัติเหตุร้ายแรงและใกล้ตาย ผู้ทำพินัยกรรมด้วยวาจาจะต้องแสดงเจตนาว่าจะยกทรัพย์สินให้ใครต่อหน้าพยาน 2 คน จากนั้นพยานรีบไปแจ้งวันเดือนปีและข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมสั่งไว้ต่อนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขต ให้นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตจดข้อความ แล้วให้พยานลงลายมือชื่อไว้

3.การขูด ลบ ตก เติม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในพินัยกรรม ต้องลงวันเดือนปี และลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน และพยาน 2 คนนั้นต้องลงลายมือชื่อในขณะนั้นด้วย

ก็ขอสรุปย่อๆ อย่างนี้ แต่ที่ผู้เขียนพบเห็นมานั้น แม้ว่าพินัยกรรมจะทำไว้ด้วยเจตนาดีของเจ้ามรดกอย่างไร ถ้าผู้รับพินัยกรรมหรือทายาทที่ไม่ได้รับพินัยกรรมโลภมาก อยากได้เกินกว่าที่ควร ก็จะก่นด่า สาปแช่ง ผู้ทำพินัยกรรมให้สะดุ้งแม้ตายไปแล้ว และยังนำคดีมาฟ้องอ้างว่าพินัยกรรมปลอมกันอยู่มากมาย

ซึ่งเป็นหลักการคร่าวๆ เท่านั้นครับ หากท่านที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถปรึกษาได้ที่ ฝ่ายธนบดีธนกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน โทร. 02-680-3333

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ