เที่ยวไทยดิ้นเพื่ออยู่รอด ดึงเอกชนรายใหญ่จัดทัวร์
บริษัทนำเที่ยว หรือบริษัททัวร์ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างรายได้ให้ภาคท่องเที่ยว
บริษัทนำเที่ยว หรือบริษัททัวร์ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างรายได้ให้ภาคท่องเที่ยว เพราะนำกลุ่มคนไปเที่ยวแต่ละพื้นที่ครั้งละมากๆ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน เดิมเคยเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว ก็เปลี่ยนเป็นเที่ยวเอง บริษัทนำเที่ยวจึงต้องวางกลยุทธ์ให้ธุรกิจนี้ยังอยู่รอดในระยะยาว
ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ระบุว่า สัดส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยวเหลือไม่ถึง 20% ของจำนวนคนไทยทั้งหมดที่เที่ยวในประเทศ บริษัททัวร์จึงต้องวางแผนรับมือกับสถานการณ์นี้
หนึ่งในแนวทางสำคัญที่จะคงหรือเพิ่มสัดส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยวได้ คือ การขอความร่วมมือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในทุกกลุ่มธุรกิจให้เข้ามาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
ที่ผ่านมามีบริษัทนำเที่ยวขนาดกลางและขนาดใหญ่ติดต่อกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เป็นพันธมิตรรับจัดโปรแกรมท่องเที่ยวในกรณีที่บริษัทเอกชนจะจัดกิจกรรมตอบแทนตัวแทนจำหน่าย หรือลูกค้าอยู่แล้ว แต่ผลดีต่อภาคท่องเที่ยวก็เกิดขึ้นเฉพาะตัวบริษัทนำเที่ยวรายนั้น และบริษัทเอกชนที่จัดโครงการ ซึ่งไม่ได้ต่อยอดให้เกิดผลดีกับภาคท่องเที่ยวโดยรวมด้วย
ดังนั้น สทน.จึงมีแนวทางจับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอความร่วมมือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศชัดเจนขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่มองว่าสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ เพียงเพราะความเห็นใจบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น แต่ต้องการเน้นให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ร่วมมือเพราะเห็นความสำคัญว่า การสนับสนุนท่องเที่ยวในประเทศช่วยกระจายรายได้ให้คนในทุกพื้นที่ และจะเป็นประโยชน์กลับมายังบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เอง เพราะเมื่อคนมีรายได้ทั่วถึงก็จะกลับมาซื้อสินค้าและบริการ ยิ่งรับรู้ว่าบริษัททำประโยชน์ให้ภาคท่องเที่ยวก็จะนึกถึงและอยากใช้สินค้าและบริการอันดับต้นๆ
สำหรับโครงการที่จะขอให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่สนับสนุน วางไว้ 2 โครงการ โครงการแรก คือ ขอบคุณที่เที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะมีหลายตอน ตามโปรแกรมท่องเที่ยวที่วางไว้ว่าจะไปให้ครบทุกภาคทั่วประเทศ โดย สทน.จะขอให้บริษัทเอกชนสนับสนุนงบประมาณจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การแสดงทางวัฒนธรรม ที่หาดูไม่ได้ในโปรแกรมท่องเที่ยวทั่วไป การทำพิธีกรรมที่มีความพิเศษ ไม่สามารถทำได้กรณีเดินทางไปเอง เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวรู้สึกได้ท่องเที่ยวแบบพิเศษๆ
นอกจากนี้ ระหว่างจัดโครงการ สทน.ก็จะนำแบรนด์ของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สนับสนุนกิจกรรมมาสร้างการรับรู้กับลูกค้าที่เดินทาง และต่อยอดด้วยการบันทึกภาพบรรยากาศการท่องเที่ยว การแสดงพิเศษ ทำภาพยนตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเผยแพร่ผ่านยูทูบ
ยุทธชัย กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือบริษัท 34 แห่ง ตั้งเป้าหมายจัดโครงการภายในปีนี้ คาดจะดึงคนเที่ยวผ่านโครงการได้ 3,000-4,000 คน โดยราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทต่อคน สำหรับการเที่ยวแบบ 4 วัน 3 คืน
ขณะที่ในระยะต่อไปจะขอให้บริษัทเอกชนจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้า หรือพนักงาน โดยให้รางวัลท่องเที่ยวในประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยวมากขึ้น และต่อยอดด้วยการโปรโมตกิจกรรมสู่สายตาสาธารณชน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้บริษัทเอกชนอื่นจัดกิจกรรมแบบเดียวกัน ตั้งเป้าหมายผลักดันให้สัดส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยว เพิ่มเป็น 20-22% จากปัจจุบันมีไม่ถึง 20% เพราะหากบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เข้าร่วมจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้หลายหมื่นคนต่อปี
อีกโครงการ คือ ขอความร่วมมือ เทสโก้ โลตัส สนับสนุนใช้พื้นที่จอดรถในเทสโก้ โลตัส ทั่วประเทศ รองรับรถบัสจอดรถรับส่ง หรือแวะพักระหว่างทาง ในโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งเทสโก้ โลตัสได้ประโยชน์ในแง่ลูกค้าบริษัทนำเที่ยวที่จะไปใช้บริการอาหาร และซื้อสินค้า ขณะเดียวกันยังได้รับภาพลักษณ์เชิงบวกในแง่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศด้วย ส่วนระยะต่อไปจะขอให้เทสโก้ โลตัสจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้า ด้วยการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศในระดับที่น่าพอใจแล้ว อีกกลุ่มที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับปานกลาง คือ สถาบันการเงิน เพียงแต่ภาพยังเป็นการส่งเสริมการไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่าในประเทศ ขณะที่กลุ่มปูนซีเมนต์ เป็นกลุ่มที่มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศน้อยอยู่ ทั้งที่มีงบประมาณมาก มีผลิตภัณฑ์มาก หากดึงกลุ่มนี้สนับสนุนการท่องเที่ยวได้จะเป็นประโยชน์กับประเทศมหาศาล


