โรงจำนำตุนเงิน500ล้าน
รับมือคนแห่ใช้บริการพุ่ง20% เที่ยวสงกรานต์จ่ายค่าเทอม
โพสต์ทูเดย์
— โรงรับจำนำตุนเงิน 500 ล้านบาท รับมือแห่ใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ และใกล้วันเปิดเทอม ยอดพุ่ง 1020%นายนิธิศ มนูญพร ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำรัฐบาล) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน เม.ย.พ.ค. นี้ คาดว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 1020% หรือมียอดการรับจำนำเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 1,400 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,5001,600 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ลูกค้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเพื่อเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัด
ขณะเดียวกันเดือน พ.ค. จะเป็นช่วงเปิดเทอมการศึกษาก็ลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้โรงรับจำนำรัฐได้มีการเตรียมเงินสภาพคล่อง 500 ล้านบาท เพื่อรองรับการรับจำนำของลูกค้าได้อย่างเพียงพอกับความต้องการ
ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการชุมนุมไม่ส่งผลกระทบกับการรับจำนำ เพราะกลุ่มลูกค้ายังคงเป็นกลุ่มเดิม มีทั้งพนักงานทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการสภาพคล่องระยะสั้น แม้ว่ารัฐบาลมีนโยบายช่วยล้างหนี้นอกระบบ ก็ไม่ได้ทำให้ลูกค้ามีเงินเพื่อนำมาไถ่ถอนทรัพย์จำนำมากขึ้น โดยยังคงมีอัตราทรัพย์สินหลุดจำนำประมาณ 10%
“
ลูกหนี้จะต้องนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบก่อนเพราะมีอัตราดอกเบี้ยแพง และหากมีรายได้เหลือก็คงมาไถ่ถอนสินทรัพย์ออกจากโรงรับจำนำ ซึ่งก็คงใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่ง” นายนิธิศ กล่าวนายนิธิศ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินรับจำนำจาก 6 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาทต่อตั๋ว 1 ใบนั้น ทำให้มีฐานลูกค้ามากขึ้นรวมทั้งการขยายระยะการช่วยค่าครองชีพของรัฐด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 0% ในเดือนแรก หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งจะสิ้นสุดเดือน ก.ย. 2553 ทำให้มีประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น โดยไถ่ถอนสินทรัพย์จากโรงรับจำนำอื่นหันมาใช้โรงรับจำนำของรัฐมากขึ้น
ปัจจุบันมีรายการการรับจำนำประมาณ 1 แสนรายการ คิดเป็นฐานลูกค้าประมาณ 1 ล้านคนทั่วประเทศในขณะนี้


