ผวาราคาทองผันผวนโรงติ๊งลดวงเงินรับจำนำ

ผลจากราคาทองคำโลกและในประเทศที่ผันผวนอย่างหนัก ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ซื้อลงทุนและร้านค้าเท่านั้นที่ปวดขมับ แม้แต่โรงรับจำนำก็ปวดขมอง

นิธิศ มนุญพร ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำของรัฐ เปิดเผยว่า ได้ประกาศลดวงเงินรับจำนำทองคำ จากเดิมให้รับจำนำ 87.5% ของราคาทองคำ เหลือเพียง 85% ของราคาทองที่สมาคมค้าทองคำประกาศ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา

สาเหตุที่ปรับลดวงเงินจำนำทองคำลง เนื่องจากช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาราคาทองคำมีความผันผวนมาก โดยราคาทองคำลดลงมาแล้ว 9%

แม้ว่าราคาทองคำลดลง โรงรับจำนำของรัฐก็ไม่ขาดทุน เนื่องจากเดิมมีส่วนต่างราคา 12.5% ทองคำลดลง 9% ก็ยังมีส่วนต่าง 3.5%

ดังนั้น การปรับลดวงเงินรับจำนำทอง หรือขยายส่วนต่างเพิ่มเป็น 15% จะช่วยลดความเสี่ยงราคาทองคำได้

แต่หากราคาทองคำมีเสถียรภาพมากขึ้น อาจจะกลับมารับจำนำทองที่ 87.5% ของราคาทองตามเดิม

นิธิศ กล่าวว่า การที่โรงรับจำนำของรัฐเปลี่ยนอัตราการรับจำนำ โรงรับจำนำเอกชนอาจจะปรับตามหรือไม่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องทำตามโรงรับจำนำของรัฐ

สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน ผู้บริหารโรงรับจำนำ “อีซี่มันนี่” กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ทำให้ลูกค้าปล่อยจำนำทองหลุดไม่มาไถ่ถอนมากขึ้น เนื่องจากส่วนต่างราคากับดอกเบี้ยใกล้เคียงกัน ทำให้ลูกค้ายอมที่จะปล่อยสินทรัพย์ไม่มาไถ่ถอนทรัพย์ออก

การกำหนดราคารับจำนำทองคำของอีซี่มันนี่ จะแตกต่างกับโรงรับจำนำของรัฐที่จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาทองคำที่สมาคมค้าทองคำประกาศ แต่อีซี่มันนี่จะใช้สูตรคำนวณราคาทองคำปัจจุบันที่สมาคมประกาศ การคาดการณ์แนวโน้มราคาทองอีก 6 เดือนข้างหน้าบวกอัตราดอกเบี้ย 6 เดือน บวกภาษี บวกค่าใช้จ่ายการดำเนินการ และกำไร เป็นราคาที่รับจำนำ

ยกตัวอย่าง ราคาทองคำที่สมาคมประกาศ 22,200 บาท อีซี่มันนี่ก็จะรับจำนำทอง 1.91.95 หมื่นบาท ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ได้ประมาณ 87.590%

ด้าน กมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเป็นครั้งแรก จากการสำรวจกลุ่มนักลงทุนและผู้ค้า 535 ราย แบ่งเป็นผู้ลงทุนทองคำ 428 ตัวอย่าง และผู้ค้าทองคำ 107 ตัวอย่าง อยู่ที่ 44.07 จุด สะท้อนมุมมองในเชิงลบที่มีต่อราคาทองคำในเดือน มี.ค.

ปัจจัยการเก็งกำไร การแข็งค่าของค่าเงินบาทและทิศทางของสกุลเงินเหรียญสหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระทบต่อราคาทองคำในประเทศ

กลุ่มนักลงทุนในทองคำมีมุมมองค่อนข้างเป็นเชิงลบ โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำแยกเฉพาะนักลงทุนอยู่ที่ 42.52 จุด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำแยกเฉพาะผู้ค้าทองคำอยู่ที่ 49.47 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทั้งกลุ่มนักลงทุน และกลุ่มผู้ค้าทองคำ มีมุมมองเชิงบวกที่ตรงกัน ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 75.72 จุด สะท้อนมุมมองในเชิงบวก

จากคำถามว่า กลุ่มตัวอย่างจะซื้อทองคำในช่วง1 เดือนข้างหน้าหรือไม่ ผลปรากฏว่า 52.53%คิดว่าจะซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 28.89% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้า และ 18.57% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่

นักลงทุนเชื่อว่าราคาทองคำในปีนี้จะอยู่ในกรอบ 1,7501,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่บาทละ 2.35-2.5 หมื่นบาท