Saving plan
เป็นไงกันบ้างครับ ช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมา คงมีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย เกิดกับพวกเรา (โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน) ทุกคนเลยนะครับ ข่าวดี ก็คือ โบนัส พวกเราคง Happy กันถ้วนหน้า ข่าวร้ายก็คือ ภาษี บางคนก็ได้เงินคืน บางคนก็ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ไม่ว่าจะได้เงินคืน หรือเสียเงินเพิ่ม ถ้าพวกเราไปดูในช่องภาษีที่คำนวณได้ ตอนยื่นแบบ จะรู้เลยครับว่ามันไม่น้อยเลย ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของไทยแพงที่สุดในอาเซียน (อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดโดยเฉลี่ยในปี 2012 ของประเทศใน กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่ากับ 30%)
เป็นไงกันบ้างครับ ช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมา คงมีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย เกิดกับพวกเรา (โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน) ทุกคนเลยนะครับ ข่าวดี ก็คือ โบนัส พวกเราคง Happy กันถ้วนหน้า ข่าวร้ายก็คือ ภาษี บางคนก็ได้เงินคืน บางคนก็ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ไม่ว่าจะได้เงินคืน หรือเสียเงินเพิ่ม ถ้าพวกเราไปดูในช่องภาษีที่คำนวณได้ ตอนยื่นแบบ จะรู้เลยครับว่ามันไม่น้อยเลย ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของไทยแพงที่สุดในอาเซียน (อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดโดยเฉลี่ยในปี 2012 ของประเทศใน กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่ากับ 30%)
สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอตอนยื่นภาษีก็คือ ทำอย่างไรถึงจะลดภาษีที่ต้องจ่ายได้บ้าง คำตอบหนึ่งที่มักได้รับคำแนะนำเสมอ ก็คือ การลงทุนในกองทุน RMF และ LTF เพราะเงินที่ลงทุนกองทุนทั้ง 2 ประเภทสามารถนำไปหักลดหย่อนเงินได้สูงถึง 15% ของเงินได้ (ไม่สนใจว่าเป็นเงินได้ประเภทไหน) สูงสุดไม่เกินอย่างละ 5 แสนบาท รวมง่ายๆ สำหรับคนที่มีเงินได้สูง จะสามารถลดหย่อนได้ถึง 1 ล้านบาท ถ้าฐานเงินได้อยู่ในภาษีขั้น 35% เท่ากับจะสามารถประหยัดภาษีได้ถึง 3.5 แสนบาท ไม่น้อยเลยนะครับ
แต่ปัญหาที่พบกับคนที่ลงทุนใน RMF และ LTF ก็คือ รอจังหวะให้หุ้น หรือ ทองคำ ฯลฯ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของกองทุน) ราคาถูกๆ พูดง่ายๆ คือ รอหุ้นตก รอทองคำตก นั่นเอง แต่ปีที่ผ่านมา หุ้นก็ไม่ยอมตกซักที หลายคนจึงต้องไปซื้อ RMF และ LTF ตอนปลายปีที่ NAV แพงๆ มาปีนี้ก็รออีก หุ้นก็ยังไม่ตกอีก จะซื้อก็กลัวติดดอย จะไม่ซื้อก็กลัวต้องไปซื้อของแพงตอนปลายปีอีก ผมจึงอยากขอเสนอวิธีง่ายๆ Easy มากๆ คือ การทยอยซื้อแบบไม่สนใจตลาด หรือ ที่เรียกกัน Saving plan
Saving plan คือ ระบบการให้บริการหักบัญชีเงินฝากเพื่อซื้อหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลา เช่น ทุกเดือน ทุกไตรมาส ฯลฯ ทั้งนี้แล้วแต่ความต้องการของเรา ด้วยระบบ Saving plan ดังกล่าว เราจะได้รับความสะดวกสบายมากมายในการลงทุนในกองทุนรวม กล่าวคือ ไม่ต้องทำธุรกรรมการซื้อด้วยตนเอง ไม่เสียเวลา นอกจากความสะดวกสบายดังกล่าว การออมด้วยระบบ Saving plan จะช่วยสร้างวินัยในการออมเงินให้กับเรา ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในความคาดหวังที่ตั้งไว้ และที่สำคัญก็คือ การออมด้วยระบบ Saving plan ทำให้ต้นทุนโดยเฉลี่ยของเราลดลง ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้น ดังตัวอย่าง
ในปัจจุบัน หลายธนาคารยังให้บริการหักบัตรเครดิตเพื่อซื้อกองทุนแบบ Saving plan ด้วย ซึ่งก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้อีก อย่างเช่น ผมเองซื้อ RMF และ LTF ของ บลจ. บัวหลวง โดยหักบัตรเครดิตแบบ Saving plan รอบการตัดบัญชีของบัตรเครดิต คือ ทุกวันที่ 15 ของเดือน ผมก็หักบัตรเครดิตแบบ Saving plan ทุกวันที่ 16 ซึ่งหมายความว่า ผมจะได้หน่วยลงทุนที่ NAV ของวันที่ 16 แต่ชำระเงินจริงๆ อีกประมาณ 45 วันถัดไป (โดยไม่เสียดอกเบี้ย) ทำให้ในช่วงก่อนชำระเงิน เราสามารถเอาเงินในบัญชีหาผลประโยชน์ได้อีกต่อหนึ่งนั่นเอง
ถ้าเพื่อนๆ สนใจ Saving plan ก็สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารที่เพื่อนๆ ทำธุรกรรมอยู่ครับ


