posttoday

ประสบการณ์ขาดทุน TFEX จาก 400,000 เหลือ 60,000

21 กุมภาพันธ์ 2556

วันนี้บังเอิญได้อ่านเว็บ pantip โต๊ะสินธร ก็เลยอยากขอนำมาแชร์ เพื่อเตือนใจหลายคนที่กำลังสนุกกับการทำกำไรในหุ้น เผื่อจะได้เห็นเหรียญอีกด้านครับ

วันนี้บังเอิญได้อ่านเว็บ pantip โต๊ะสินธร ก็เลยอยากขอนำมาแชร์ เพื่อเตือนใจหลายคนที่กำลังสนุกกับการทำกำไรในหุ้น เผื่อจะได้เห็นเหรียญอีกด้านครับ

สิ่งที่ทุกคนเห็นคือความจริง ด้านหนึ่งมีคนได้กำไร แต่อีกด้านหนึ่งก็มีคนที่ขาดทุน

ขอเริ่มเลยนะครับ ที่อยากจะ Share เห็นว่าช่วงนี้มีคนได้กำไรและกำลังสนุกกับการลงทุนในหุ้น แต่ประสบการณ์ TFEX ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ผมจึงอยากเล่าประสบการณ์การ Trade TFEX ของผมว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดทุนได้มากขนาดนี้

1.ก่อนลงสนามเลยศึกษาทุกอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง แล้วนำเอามาเทรดเป็นลักษณะทดลองครั้งละ 1 สัญญา

2.ก่อนลงเทรดจริง ทำการเทรดบนกระดาษ ทำการบ้านมาอย่างดี แต่พอลงจริงกลับควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

3.การเทรดบ่อยเกินไปทำให้เสียค่าคอมมิชชันมาก

4.การไม่บริหารเงินในพอร์ต

5.การเทรดสวนเทรนด์ คือ ปีที่แล้วเทรนด์เป็นขาขึ้น แต่เราใช้ภาพเล็กเทรด ทำให้พลาดการมองในภาพใหญ่

6.เมื่อเสีย แล้วอยากเอาคืน และเพิ่มสัญญาเข้าไปอีก ยิ่งทำให้ผมมึนงงและโดนหนักกว่าเดิม

7.สุดท้าย คือ อะไรที่เราคิดว่าได้มาง่าย เช่น อยากรวยเร็ว ได้เงินมากๆ ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ครับ

8.การที่ใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่มากหลายตัวเกินความจำเป็น ที่ผมใช้คือ RSI, MACD, EMA (ปัจจุบันนี้ไม่ใช้แล้วครับ ดูแค่แท่งเทียน และ Volume

ท้ายที่สุด หากคุณคิดจะอยู่ในสนามนี้แล้วไม่มีรูปแบบและวิธีการเทรดที่เป็นของคุณเอง สักวันคุณก็แพ้ นั่นหมายถึง การขาดทุนอย่างผม

ผมอ่านโพสต์นี้แล้ว ก็เลยนึกถึงผลการสำรวจพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยที่เน้นลงทุนระยะสั้นในตลาดหุ้นไทยช่วง ส.ค.ต.ค. 2553 ที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า 10 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนำไปสู่ความผิดพลาดสำหรับนักลงทุนรายย่อย มีดังนี้ครับ

1.ไม่ศึกษาหาความรู้ก่อนการลงทุน

2.ไม่กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน

3.ไม่วางแผนหรือแนวทางในการลงทุน

4.ไม่มีการกำหนดระดับอัตราผลขาดทุนที่ยอมรับได้จากการลงทุนในแต่ละหลักทรัพย์

5.ไม่มีวินัยในการลงทุน ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามแผนการลงทุนที่วางไว้

6.ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคค่อนข้างน้อย แต่มักซื้อขายหุ้นตามข่าวลือ

7.ไม่มีการทยอยซื้อหุ้น มักจะซื้อขายหุ้นบ่อยครั้งในช่วงตลาดขาขึ้น

8.มีรูปแบบในการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น ซื้อหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายมาก หรือซื้อหุ้นตอนหุ้นวิ่ง แต่ราคาไม่ปรับตัวขึ้นเลยขาย

9.ไม่จดบันทึกการซื้อขาย

10.ไม่ติดตามข้อมูลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

ช่วงนี้พวกเราหลายคนคงยังกำไรกันอยู่ตามดัชนีหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกวัน แถมหลายโบรกฯ ยังประเมินกันอีกว่าดัชนีปลายปีน่าจะขึ้นไปได้ถึง 1,700 จุด ไม่อยากฉุดความหวังพวกเรานะครับ แต่ไม่อยากให้ประมาท ยังไงก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมานี้ดีกว่า

ศึกษาหาความรู้ หาข้อมูลสักนิดก่อนตัดสินใจลงทุน และที่สำคัญตอน Key Order ถามตัวเองก่อนที่จะซื้อหรือขาย ทำด้วยเหตุผล อารมณ์ หรือข่าวลือครับ

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี