ฮอนด้าลุยสร้างโรงงานใหม่ที่ปราจีน
ฮอนด้าประกาศแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี คาดปี 58 มีกำลังการผลิตเป็น 4.2 แสนต่อปี
ฮอนด้าประกาศแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี คาดปี 58 มีกำลังการผลิตเป็น 4.2 แสนต่อปี
นายฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ และประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าวว่า เตรียมลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุนกว่า 17,150 ล้านบาท พร้อมกับการเพิ่มการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่จังหวัดอยุธยา รองรับตลาดรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ในอาเซียน โอเชียเนีย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งตลาดภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระดับรายได้ของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ ที่จังหวัดปราจีนบุรี เบื้องต้นมีมูลค่า 17,150 ล้านบาท ครอบคลุม เนื้อที่กว่า 1,600 ไร่ (ประมาณ 2.56 ล้านตารางเมตร) โดยมีพื้นที่อาคารสำนักงานและอาคารโรงงาน 134 ไร่ (ประมาณ 214,000 ตารางเมตร) โรงงานแห่งใหม่นี้ จะมีกำลังการผลิต 1.2 แสนคันต่อปี มีกำหนดเปิดเดินสายการผลิตในปี 2558 สร้างโอกาสในการจ้างงานประมาณ 2,500 อัตรา รวมพนักงานอัตราจ้างตามฤดูกาล
ส่วนโรงงานฮอนด้าในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันได้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตจาก 2.4 แสนคันเป็น 2.8 แสนคันต่อปี เมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยใช้เงินลงทุนขยายกำลังการผลิตในระยะแรกประมาณ 880 ล้านบาท เพื่อยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์และระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังเตรียมเพิ่มการลงทุนระยะที่ 2 ในเดือนเมษายนนี้ อีก 2,030 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนคันต่อปีภายในต้นปี 2557
“เมื่อผนวกรวมการขยายกำลังผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่อยุธยาและโรงงานแห่งใหม่ที่ปราจีนบุรีเข้าด้วยกัน ฮอนด้าจะมีกำลังผลิตรวม 4.2 แสนคันต่อปี ในปี 2558 สำหรับสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกอยู่ที่ 70:30 หรือผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ 3 แสนคันและส่งออกอีก 1.2 แสน คัน" นายโคบายาชิ กล่าว
ทั้งนี้ ฮอนด้ามองภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในปี 2556 ว่า จะสามารถคงยอดจำหน่ายได้ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย โดยคาดการณ์ยอดจำหน่ายไว้ประมาณ 1.2 ล้านคัน สำหรับฮอนด้าเอง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไว้มากกว่า 2 แสนคัน


