สุภศักดิ์ กฤษณามระ รุ่นที่3ใน'ดีลอยท์'
“สุภศักดิ์ กฤษณามระ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ประเทศไทย วัยกว่า 48 ปี เป็น “กฤษณามระ” รุ่นที่ 3
โดย...เจียรนัย อุตะมะ
“สุภศักดิ์ กฤษณามระ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ประเทศไทย วัยกว่า 48 ปี เป็น “กฤษณามระ” รุ่นที่ 3 ของตระกูลนับตั้งแต่ก่อตั้งดีลอยท์มาตั้งแต่รุ่นปู่ และกว่าที่จะตกทอดมาถึงรุ่นหลานได้ บริษัทสอบบัญชีเก่าแก่ที่สุดของไทยได้มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์อันยาวนานในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
ดีลอยท์ ประเทศไทย เดิมชื่อ สำนักงานไชยยศ ก่อตั้งเมื่อปี 2482 โดยพระยาไชยยศสมบัติ (เสริม กฤษณามระ) โดยได้การเชิญชวนของพระยานรนารถภักดี (ปุย บุนนาค) จนกระทั่งบัดนี้นับว่าเป็นเวลาถึง 73 ปี ที่สำนักงานสอบบัญชีแห่งแรกของไทยดำเนินธุรกิจอยู่ได้มาจนกระทั่งทุกวันนี้
สำนักงานไชยยศเป็นสำนักงานสอบบัญชีรายเดียวที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการชำระบัญชีบริษัทฝ่ายอักษะตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อมาถึงสมัย ศ.เติมศักดิ์ กฤษณามระ บุตรชายคนโตของพระยาไชยยศสมบัติ ผู้เป็นบิดาของเขา ท่านได้ยกระดับให้สำนักงานไชยยศที่บริหารงานแบบครอบครัวพัฒนามาสู่การเป็นบริษัทสอบบัญชีนานาชาติด้วยการจับมือกับบริษัท ทู้ช รอส สัญชาติอังกฤษในปี 2520 นับว่าเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่มีส่วนร่วมกับต่างชาติในยุคนั้น ต่อมา ทู้ช รอส ควบรวมกิจการกับ ดีลอยท์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ”
หลังจากนั้น ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ได้มีกรรมการผู้จัดการเป็นชาวต่างชาติอีก 2 คน ตามลำดับ คือ “โรเบิร์ต เทเลอร์” และ “แอนดรู เบิร์นส”
“สุภศักดิ์” เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการ ดีลอยท์ ประเทศไทย เมื่อปี 2545 ในยุคนี้มีการเซ็นบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นของดีลอยท์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 22 สำนักงานใน 8 ประเทศ เพื่อพัฒนาโครงสร้างการทำงานเป็นดีลอยท์ เซาท์อีสต์ เอเชีย ในปี 2549 และในปี 2554 ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ เป็นหนึ่งในสมาชิกดีลอยท์ เซาท์อีสต์ เอเชีย เตรียมความพร้อมกับการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
เส้นทางของเขาไม่ได้ง่ายนักในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำขององค์กรเก่าแก่ที่เปลี่ยนจากธุรกิจดั้งเดิมของตระกูลมาเป็นระบบมืออาชีพ
หลังจากจบปริญญาตรีเกียรตินิยม ด้านวิศวกรรมเคมีจากสถาบันวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และปริญญาโทจากเคลล็อก เกรดูเอด สกูล ออฟ แมนเนจเมนต์ มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐ เมื่อเรียบจบบิดาส่งไปฝึกงานในดีลอยท์ แคนาดา ที่ออตตาวา เมืองหลวง และสหรัฐ รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาปรับปรุงคุณภาพและกระบวนการทำงานของภาครัฐอยู่ที่แคนาดา 3 ปี จึงย้ายมาที่ชิคาโก หลังจากนั้นจึงกลับมาช่วยบิดาที่ดีลอยท์ ประเทศไทย ในช่วงปี 2536 ดูแลด้านธุรกิจที่ปรึกษาที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุควางรากฐานธุรกิจแบบใหม่มาสู่การเป็นผู้ให้บริการครบวงจร
ปี 2538 ที่ “เทเลอร์” เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการต่างชาติเป็นคนแรก บิดาของเขา “เติมศักดิ์” ได้ขึ้นไปเป็นประธานบริษัท
เขาเล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นสถาบันการเงิน ที่เป็นลูกค้าเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนวิกฤตปี 2540 และเป็นบริษัทข้ามชาติ 70% และส่วนใหญ่ของชาวต่างชาตินี้เป็นญี่ปุ่น
“ดีลอยท์มีสาขา 150 ประเทศ พนักงาน 1.95 แสนคน เฉพาะในไทย 800 คน ดีลอยท์ ประเทศไทย เป็น 1 ใน 7 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ในภูมิภาคนี้เป็นอันดับ 15 ของทั่วโลก โดยดีลอยท์ เอเชียแปซิฟิก มีรายได้เติบโตสูงสุดเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน”
กลยุทธ์ดำเนินธุรกิจของดีลอยท์ในยุคที่มีเขาเป็นผู้นำ ยังคงเน้นลูกค้าญี่ปุ่นที่เป็นสถาบันการเงินและธุรกิจอุปโภคบริโภค พลังงานและน้ำมันตามที่ถนัด บริษัทเป็นที่ปรึกษาให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย และ ปตท. และกำลังจะเริ่มให้บริการใหม่ ตรวจสอบเส้นทางทุจริต วิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้ม เพื่อเป็นมุมมองของผู้บริหารธุรกิจในการมีเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้น
ยามว่างชายคนนี้ชอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ สมัยเรียนปริญญาโทด้วยกัน เขามีลูกชายวัยรุ่น 2 คน วัย 18 ปี และ 15 ปี และลูกสาววัย 6 ขวบ โดยลูกชายเรียนโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์


