ปิดฉาก20ปี ตี๋ แม็ทชิ่ง ก้าวใหม่ ' เอนเตอร์เทนเมนต์'
ตี๋ แม็ทชิ่ง หรือ สมชาย ชีวสุทธานนท์ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการอีเวนต์ โฆษณา แม็ทชิ่ง สตูดิโอ
โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร
ตี๋ แม็ทชิ่ง หรือ สมชาย ชีวสุทธานนท์ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการอีเวนต์ โฆษณา แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์โฆษณา เคยติด 1 ใน 10 โปรดักชันเฮาส์ชั้นนำของโลก จากผลงานโฆษณากรณีศึกษาของเมืองไทย ชุด “ไอ้ฤทธิ์กินแบล็ค” อันโด่งดัง
วันนี้ ตี๋ แม็ทชิ่ง ได้โบกมือลาบริษัทเดิม ที่ปลุกปั้นมานานกว่า 20 ปี และมาเริ่มต้นอีกครั้งกับ “ตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์” ร่วมกับคนรุ่นใหม่ อาทิ คณิน วิชัยประเสริฐศรี เพื่อเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงแนวใหม่ แน่นอนด้วยต้นทุนที่สร้างมา ตี๋ไม่ได้เริ่มจากศูนย์เหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่เป็นการต่อยอดธุรกิจเริ่มจาก 100 ขึ้นไป
อย่างที่ทราบว่า แม็ทชิ่งได้นำตัวเองเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท บีบีทีวี โปรดักชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของช่อง 7 ด้วยหวังว่าสื่อใหญ่อย่างช่อง 7 จะช่วยสร้างธุรกิจของแม็ทชิ่งให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยทิศทาง แนวคิด และนโยบายการบริหารธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้ตี๋ตัดสินใจทิ้งบริษัทที่ก่อตั้งมากับมือ อย่างไรก็ตามกลุ่มของเขายังคงถือหุ้นในสัดส่วนกว่า 10% และให้เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้ง ฐนิสสพงศ์ ศศินมานพ นั่งบริหารต่อไป
สำหรับก้าวใหม่ของตี๋ ในนาม ตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจกลุ่มแรก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเปิดตัวธุรกิจเครื่องดื่มแบรนด์แรก ภายใต้ชื่อ “แฮปปี้ เลมอน” แฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มจากฮ่องกง 2.ธุรกิจบันเทิงครบวงจร ที่ใช้ตาดู หูฟัง 3.ธุรกิจสื่อ และสุดท้ายคือ 4.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
“ที่เริ่มด้วยธุรกิจเครื่องดื่ม เพราะมันเป็นธุรกิจที่ไม่มีวันตาย และทุกวันนี้ธุรกิจอาหารได้ปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ (ครีเอทีฟ) และการตลาด ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญมาตลอด โดยวางโพสิชันธุรกิจเครื่องดื่มของเราว่าเป็นพรีเมียมแบบเอื้อมถึง” ตี๋ สมชาย กล่าว
สำหรับแฮปปี้เลมอน เป็นเครื่องดื่มชงสดประเภทชาเป็นหลัก แต่มีเครื่องดื่มอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชา มีศักยภาพในการเติบโต ปัจจุบันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และที่เลือกแฮปปี้เลมอนในการเปิดตลาดเมืองไทย เพราะแบรนด์นี้ไม่เพียงได้รับความนิยมในฮ่องกงเท่านั้น ยังขยายตลาดไปประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้แล้ว เช่น ออสเตรเลีย จีน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ เพราะฉะนั้นเครื่องดื่มนี้มีโอกาสมากในการรองรับการเปิดตลาดเออีซี
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาแฮปปี้เลมอนให้ครบ 15 สาขาภายในปี 2556 ปัจจุบันมี 4 สาขา ได้แก่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า, แฟชั่น ไอส์แลนด์และทียู โดม พลาซ่า รังสิต คาดว่าจะมีรายได้จาก 4 สาขาประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี และหากติดลมบนเชื่อว่าจะขยายได้อีกมาก โดยเฉพาะในรูปแบบแฟรนไชส์
“สตีฟ จ็อบส์ ทำให้คนถือมือถือสมาร์ตโฟนติดตัวไปทุกที่ได้ ตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็จะทำให้คนถือเครื่องดื่มแฮปปี้เลมอนติดตัวไปทุกที่เช่นเดียวกัน โดยจะใช้โซเชียล มีเดียในการสร้างกระแสให้เกิดในเมืองไทย” ตี๋ กล่าว
ด้านธุรกิจอื่นๆ ของตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ จะทยอยเปิดตัวภายใน 12 เดือนนี้ รับรองว่าเป็นธุรกิจที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ในแบบตี๋ สไตล์ เน้นสร้างนวัตกรรมให้สอดรับกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพันธมิตรในแต่ละกลุ่มธุรกิจที่พร้อมจะสร้างโครงการใหม่ๆ ร่วมกัน โดยอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกจะเป็นศูนย์สำหรับคนรุ่นใหม่ให้มาใช้ชีวิต และโครงการต่อไปจะเป็นคอนโดมิเนียม เจาะเฉพาะความต้องการของกลุ่ม จะเป็นอย่างไรภายในปีหน้าได้เห็นแน่นอน
ตี๋กล่าวถึงรายได้จากธุรกิจต่างๆ ของตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท และจะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ รับรองว่าแต่ละธุรกิจจะแตกต่าง สร้างนวัตกรรมทางการตลาดใหม่ๆ สไตล์ตี๋ เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งวันนี้พร้อมจะกลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง


