posttoday

ช่าวอบกึ่งสำเร็จรูปพร้อมหุง

18 สิงหาคม 2555

จากธุรกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรอบแห้งของครอบครัว แต่พอ สมิต ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ ก้าวขึ้นมารับช่วงกิจการครอบครัวต่อเป็นทายาทรุ่นที่ 2 นอกจากจะสานต่อแล้วยังต่อยอดธุรกิจ โดยสร้างนวัตกรรมข้าวอบกึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ “เออร์เบิร์น ฟาร์ม” นำเสนอความอร่อยเพื่อสุขภาพในรสชาติแบบไทยๆ มาพร้อมความสะดวก ตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่ฉีกซองแล้วหุงพร้อมข้าวเท่านั้น

จากธุรกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรอบแห้งของครอบครัว แต่พอ สมิต ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ ก้าวขึ้นมารับช่วงกิจการครอบครัวต่อเป็นทายาทรุ่นที่ 2 นอกจากจะสานต่อแล้วยังต่อยอดธุรกิจ โดยสร้างนวัตกรรมข้าวอบกึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ “เออร์เบิร์น ฟาร์ม” นำเสนอความอร่อยเพื่อสุขภาพในรสชาติแบบไทยๆ มาพร้อมความสะดวก ตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่ฉีกซองแล้วหุงพร้อมข้าวเท่านั้น

สมิต เล่าถึงที่มาในการหันมาจับธุรกิจนี้ว่า บริษัทนี้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2541 เดิมทีที่บ้านเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป ในกลุ่มเครื่องเทศ สมุนไพรอบแห้ง และเจียวน้ำมันส่งให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารกึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีสินค้าหลักเป็นกระเทียม พริกไทยป่น กระเทียมเจียว และน้ำมันกระเทียมเจียว ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานสำหรับผลิตสินค้าเครื่องเทศเป็นรายแรกๆ ของไทยที่ได้รับมาตรฐาน HACCP และ ISO 22000

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจเครื่องเทศจะไปได้ดี แต่ก็มีการแข่งขันสูงขึ้นมาก ทั้งการแข่งขันในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเดินธุรกิจแค่ตลาดเฉพาะกลุ่มเดียว หากไม่เริ่มมองหาตลาดใหม่รองรับก็จะทำให้ธุรกิจตั้งอยู่บนความเสี่ยง จึงพยายามคิดหาทางต่อยอดธุรกิจ โดยนำวัตถุดิบของโรงงานมาพัฒนาเป็นสินค้าอาหารแปรรูป ภายใต้แบรนด์ตัวเองที่ชื่อว่า เออร์เบิร์น ฟาร์ม (Urban Farm)

เริ่มจากผักอบแห้งกึ่งสำเร็จรูปเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคในประเทศไทย สินค้าผ่านการวิจัยตลาดและวิจัยในห้องทดลอง เพื่อสร้างสินค้าผักนวัตกรรม แก้ปัญหาความเร่งรีบของคนยุคใหม่ที่ยังต้องใส่ใจสุขภาพไปในขณะเดียวกัน ใช้เวลาวิจัยและพัฒนาสินค้ากว่า 1 ปี ภายใต้งบประมาณกว่าล้านบาท สามารถเก็บรักษาได้นานกว่า 2 ปี

เบื้องต้นมี 4 รสชาติ ได้แก่ ต้มยำ แกงเขียวหวาน ผงกะหรี่ และกระเทียมเห็ดหอม ถือเป็นรสชาติแบบไทยๆ ที่คนทั่วไปรู้จักอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ

กระนั้นยอดขายของสินค้าผักอบแห้งก็ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก จึงได้วิจัยต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาสินค้าจนกลายเป็นซอสผงปรุงข้าวอบที่ช่วยให้ทุกคนสามารถหุงข้าวที่มีรสชาติ เช่น กระเทียมเห็ดหอม ข้าวหมกไก่ ข้าวอบต้มยำ และข้าวอบแกงเขียวหวาน ได้ง่ายๆ ในขั้นตอนเดียว เพียงแค่หุงกับข้าวสารที่บ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก มากกว่าผลิตภัณฑ์ผักอบแห้ง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จนได้รับรางวัลเชิงนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ระดับประเทศหลายรางวัล

ช่าวอบกึ่งสำเร็จรูปพร้อมหุง

 

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ซอสผงปรุงข้าวอบอยู่ที่ความง่ายในการทำ เพียงแค่ใส่เครื่องปรุงในซอง ที่ประกอบด้วยซอสผงเครื่องเทศ ผักอบแห้ง และน้ำมันเจียวหอม ลงหุงพร้อมกับข้าวสารในหม้อหุงข้าวปริมาณ 1 ซองต่อข้าวสาร 1 ถ้วย และน้ำ 400 มิลลิลิตร และยังสามารถเติมเนื้อสัตว์ที่ชอบลงหุงพร้อมกันได้ เพื่อเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย

“เรากำหนดจุดยืนของสินค้าไว้ว่า ต้องเป็นอาหารที่ทำง่าย สะดวก ดีต่อสุขภาพ และยังไม่มีในท้องตลาดมาก่อน ซึ่งเทคนิคการแปรรูปของเออร์เบิร์น ฟาร์ม จะมีรูปแบบใกล้เคียงกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมกินที่ยังไม่เคยมีในไทยมาก่อน เพียงแต่เปลี่ยนจากเส้นบะหมี่มาเป็นข้าว และเปลี่ยนจากต้มในหม้อมาเป็นใส่ในหม้อหุงข้าว ที่สำคัญเครื่องปรุงทั้งหมดไม่ใส่สารชูรสใดๆ ทั้งสิ้น จึงตอบโจทย์เป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างดี”

ขณะที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมุ่งไปที่แม่บ้านที่ใส่ใจสุขภาพสมาชิกครอบครัว และคนรุ่นใหม่หรือคนเมืองที่ต้องการเมนูที่ทำง่ายและมีประโยชน์ ด้านคู่แข่งของผลิตภัณฑ์ในตลาดก็มีมากมาย โดยเฉพาะตลาดซอสปรุงรสที่มีคู่แข่งเป็นแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง อายิโนะโมะโต๊ะ คนอร์ โลโบ้ ไอเชฟ โรซ่า และรอยไทย ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป ส่วนใหญ่เป็นพวกบะหมี่และโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป แต่ยังไม่มีใครเน้นการทำกับข้าวในหม้อหุงข้าวแบบเออร์เบิร์น ฟาร์ม จึงทำให้ยังมีโอกาสโตได้อีกในตลาดนี้

ปัจจุบันบริษัทวางแผนลงทุนธุรกิจในอนาคตไว้ 3 แนวทาง คือ ทำตลาดในประเทศ โดยการจัดจำหน่ายและโฆษณาสู่ตลาดผู้บริโภคในประเทศ หวังว่าจะเป็นสินค้าที่มีติดคู่ครัวทุกบ้านเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำตลาดต่างประเทศ เน้นตลาดอาเซียน จีน และญี่ปุ่น ผ่านงานแสดงสินค้า Thailand Trade Show ของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และทำตลาดสำหรับร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และธุรกิจบริการอาหารจัดเลี้ยงนอกสถานที่ (แคเทอริง) โดยมีเป้าหมายให้สัดส่วนในประเทศประมาณ 35% และตลาดส่งออกต่างประเทศประมาณ 65%

สมิต กล่าวด้วยว่า ผลประกอบการของบริษัทเฉลี่ยประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ส่วนเออร์เบิร์น ฟาร์ม ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ของบริษัท ตั้งเป้าว่าจะมาช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทอีก 300 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยผลการออกวางตลาดประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านบาท ถือว่ายังไกลต่อเป้าที่วางไว้มาก แต่ความแปลกใหม่ของสินค้า ประกอบกับจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับมีแผนส่งเสริมตลาดสม่ำเสมอ จึงเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายไปสู่เป้าที่วางไว้ได้

สำหรับผลิตภัณฑ์ของเออร์เบิร์น ฟาร์ม ในกลุ่มผักอบพร้อมปรุงมี 5 แบบ ได้แก่ ผักรวม ฟักทองญี่ปุ่น เห็ดหอม ซีเรียล และแบบวีพลัส ขนาดซองละ 20 บาท ด้านข้าวอบกึ่งสำเร็จรูปมี 4 รส ได้แก่ ข้าวอบกระเทียมเห็ดหอม ข้าวอบผงกะหรี่ (เหมือนข้าวหมกไก่) ข้าวอบต้มยำ และข้าวอบแกงเขียวหวาน ซองละ 3842 บาท วางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ท็อปส์ เดอะมอลล์ พารากอน เอ็มโพเรียม วิลล่า ฟู้ดแลนด์ จัสโก้ ตั้งฮั่วเส็ง เลมอนฟาร์ม สุวรรณชาด และกำลังเจรจาวางขายตามร้านสะดวกซื้อด้วย หากสนใจซื้อในปริมาณมาก หรือต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายก็สามารถติดต่อได้ที่ 0819522606 หรือ [email protected]

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี