อาซีต้าเผยคนอินโดไม่ชอบเที่ยวไทย
อาซีต้าชี้คนอินโดนีเชียไม่นิยมมาไทย แนะรัฐผนึกการทำงานใกล้ชิด ดึงอินโดฯจ่อออกนอกคึก ด้านแอตตาจี้รัฐลงทุนแมนเมดเสริมแกร่งเที่ยวไทย
อาซีต้าชี้คนอินโดนีเชียไม่นิยมมาไทย แนะรัฐผนึกการทำงานใกล้ชิด ดึงอินโดฯจ่อออกนอกคึก ด้านแอตตาจี้รัฐลงทุนแมนเมดเสริมแกร่งเที่ยวไทย
นายบากุส สุดิเบีย นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์และการเดินทาง (อาซีต้า) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวอินโดนีเซีย นิยมเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) มีอัตราการเติบโต 6.5-7% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปีทีผ่านมาคนอินโดจะเดินทางออกนอกประเทศ ประมาณ 12 ล้านคน ซึ่งในปีนี้เกณฑ์การเติบโตสูงขึ้น เพราะคนชั้นที่มีกำลังซื้อมากขึ้น มีสัดส่วน 20-25% ของประชากรทั้งหมด 225 ล้านคน
ทั้งนี้เส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเชีย คือ ประเทศมาเลเซีย เดินทางจำนวน 2 ล้านคน/ปี และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป้นประเทศที่มีวัฒนธรรมและมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน รวมถึงการใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกัน ด้านตลาดสิงคโปร์มีจำนวน 1 ล้านคน สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง เฉลี่ยกว่า 4 แสนคน ขณะที่ประเทศไทยมีคนอินโดมาเที่ยวเพียง 3 แสนคน
“ความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับตลาดอินโดนีเชีย ยังน้อยมาก เช่น ไกด์คนไทยที่พูดภาษาบาฮาซา มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับไกด์คนจีน ที่สามารถสื่อสารกับคนอินโดนีเชียได้ดีกว่า” นายบากุส กล่าว
อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยควรให้ความสำคัญ และประสานการทำงานร่วมกันระหว่างอินโดนีเชีย เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโต โดยในปีนี้อินอินโดนีเชียมีงบประมาณ การโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ประมาณ 65 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นการโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวในงานโรดโชว์ใหญ่ กว่า 30 ประเทศ เช่น ไอทีบี กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เป็นต้น
สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเชีย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 7 ล้านคน รายได้ท่องเที่ยว 2.4 แสนล้านบาท โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม อย่าง บาหลี มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเฉลี่ย 2.7 ล้านคน แบ่งเป็นการเดินทางโดยตรงเข้าบาหลี 2.5 ล้านคน อีก 2 แสนคน นิยมแวะเดินทางท่องเที่ยวเมืองอื่นๆ เช่น สุราบายา ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าอินโดนีเชีย กว่า 50% นิยมเดินทางเข้าพักที่บาหลี
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตตา) เปิดเผยว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับตลาดอินโดนีเซีย เนื่องจากมีจำนวนประชากรและภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งในอนาคตตลาดอินโดนีเชีย จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้รายได้ทางการท่องเที่ยวไทย เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558
ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ควรโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวในอินโดนีเชีย อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการจดจำ รวมถึงรัฐบาลควรลงทุนก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (แมนเมด) เพื่อใช้เป็นจุดขายที่มีความแข็งแกร่งและเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ๆให้กับประเทศไทย ซึ่งมองว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทุกประเทศในกลุ้มอาเซียนมีความเหมือนกันทั้งหมด ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างจุดแข็งที่แตกต่างกว่าเพื่อนบ้าน


