แห่ซื้อทองคำขาลงแท่งไซส์เล็กขายดี
สู้เงินเฟ้อ! นักลงทุนรายย่อยฉวยจังหวะทองขาลง แห่ลงทุนทองแท่งขนาดเล็กทดแทนเงินฝาก ร้านทองชี้ผลตอบแทนดึงดูดใจกว่าฝากธนาคาร
สู้เงินเฟ้อ! นักลงทุนรายย่อยฉวยจังหวะทองขาลง แห่ลงทุนทองแท่งขนาดเล็กทดแทนเงินฝาก ร้านทองชี้ผลตอบแทนดึงดูดใจกว่าฝากธนาคาร
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า จากทิศทางราคาทองคำที่อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากเริ่มหันมานิยมซื้อทองคำแท่งสะสมเพื่อลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะทองคำแท่งที่มีน้ำหนัก 1 บาท 2 สลึง และ 1 สลึง ทดแทนการฝากเงินไว้กับธนาคารที่ให้ผลตอบแทนไม่น่าดึงดูดใจเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ
“ในภาวะที่ค่าครองชีพสูงลูกค้ารายย่อยที่เคยซื้อทองรูปพรรณอาจจะกังวลถึงความปลอดภัย จึงเริ่มหันมาซื้อทองแท่งที่ไม่มีค่ากำเหน็จเก็บแทน แม้ว่าผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนทองในปีนี้อาจต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ให้ผลตอบแทน 1015 % แต่ก็คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 7 % ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินฝาก” นพ.กฤชรัตน์ กล่าว อย่างไรก็ดี นพ.กฤชรัตน์ ประเมินว่า ทิศทางทองคำในระยะสั้น 12 เดือนจากนี้จะยังเป็นขาลงต่อเนื่องจากแรงกดดันจากปัญหาในยูโรโซนและการเลือกตั้งในสหรัฐ แต่ยังเชื่อว่าในระยะยาวจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง โดยเฉพาะหากสหรัฐมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบรอบที่ 3 ราคาทองอาจปรับตัวขึ้นได้ไปแตะที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการเข้าซื้อทองคำแท่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในวันศุกร์ที่ผ่านมาระดับราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาต่ำที่สุดในรอบปีที่ 1,571 เหรียญต่อออนซ์ ทำให้นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่มีเงินเย็นเริ่มทยอยซื้อทองแท่งเก็บสะสม นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วงนี้นักลงทุนรายย่อยยังให้ความสนใจเข้าโครงการออมทองของทางร้าน ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในทองคำผ่านการตัดบัญชีเงินฝากธนาคารที่ขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ถึง 2 เท่าตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในตลาดที่มีแรงกดดันจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น “ราคาทองที่เริ่มลงหลังจากติดดอยมานาน ทำให้ช่วงนี้มีแรงซื้อเข้ามามาก ยอดบัญชีในโครงการออมทองของเราขณะนี้มีถึง 6,000 บัญชี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังประเมินผลตอบแทนได้ยากเพราะต้องจับตาดูสถานการณ์ในยุโรปและสหรัฐ แต่เชื่อว่าสิ้นปีน่าจะได้เห็นราคาที่ระดับ 1,700 เหรียญต่อออนซ์ ชนะเงินเฟ้อแน่นอน” นายธนรัชต์ กล่าว นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงการปรับฐานเป็นขาลงครั้งใหญ่ ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะทยอยปรับลงหรือปรับลงอย่างรุนแรง ทั้งนี้ คาดว่าในระยะสั้นราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปถึง 1,550 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์และอาจต่ำสุดได้ถึง 1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ก่อนจะปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว


