อัพเดตเศรษฐกิจการลงทุนในกัมพูชา
โดย...ยุทธศักดิ์ คณาสวัสดิ์
โดย...ยุทธศักดิ์ คณาสวัสดิ์
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมสัมมนาเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. 2555 ณ สำนักงานใหญ่ของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (Council for the Development of Cambodia – CDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ โดยจัดร่วมกันระหว่างหน่วยงาน CDC สำนักเลขาธิการอาเซียน หน่วยงาน OECD โดยมีตัวแทนหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศต่างๆ มาบรรยายสรุปความก้าวหน้าในด้านเศรษฐกิจการลงทุนของประเทศตนเอง โดยในบทความนี้จะขอเล่าถึงเฉพาะกัมพูชาก่อน
สำหรับของประเทศอื่นๆ จะกล่าวถึงในโอกาสต่อไปนาย Chea Vuthy รองเลขาธิการคณะกรรมการลงทุนของกัมพูชา (Cambodia Investment Board) บรรยายสรุปถึงผลสำเร็จของการพัฒนากัมพูชาในระยะ 18 ปีที่ผ่านมา นับจากการจัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อปี 2536 ทำให้ GDP เพิ่มขึ้นจาก 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2536 เป็น 12.9 พันล้าน ในปี 2554 ขณะที่รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นจาก 229 เหรียญสหรัฐ เป็น 909 เหรียญสหรัฐ สัดส่วนประชากรที่ยากจนลดลงจาก 50% เหลือ 25% แม้ปี 2554 กัมพูชาต้องเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่เศรษฐกิจยังเติบโตในอัตราสูงถึง 6.9%
นางอรนุช ผการัตน์ นายกสมาคมธุรกิจไทยกัมพูชา (TBCC) ซึ่งมาทำธุรกิจในด้านท่องเที่ยวและขนส่งในกัมพูชาอย่างยาวนานในนามบริษัท Cambodia Air and Sea Logistics (CASL) บรรยายถึงการลงทุนจากต่างประเทศในกัมพูชาสะสมนับถึงเดือน พ.ย. 2554 เป็นการลงทุนจากจีนมากที่สุด 8,849 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา คือ เกาหลีใต้ 4,016 ล้านเหรียญสหรัฐ สหภาพยุโรป 3,625 ล้านเหรียญสหรัฐ มาเลเซีย 2,609 ล้านเหรียญสหรัฐ สหรัฐ 1,282 ล้านเหรียญสหรัฐ ไต้หวัน 823 ล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนาม 812 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทย 746 ล้านเหรียญสหรัฐ สิงคโปร์ 676 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการลงทุนจากต่างประเทศในกัมพูชากระจุกตัวในภาคท่องเที่ยวมากที่สุด 49% รองลงมา คือ ภาคอุตสาหกรรม 25% ภาคบริการ 19% และภาคเกษตรกรรม 7%
สำหรับข้อได้เปรียบสำคัญในการทำธุรกิจในกัมพูชามีมากมาย มีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทย เปิดกว้างต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ ภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำ เพียง 20% มีสิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรที่ดี มีระบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการลงทุน กระบวนการอนุมัติการลงทุนใช้เวลาเพียง 28 วันแรงงานราคาถูก การผลิตส่งออกได้รับสิทธิพิเศษด้านศุลกากรจากประเทศพัฒนาแล้ว ต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจโดยถือหุ้นได้เต็ม 100% ไม่มีเงื่อนไขต้องร่วมทุนกับชาวกัมพูชา ไม่ควบคุมราคาสินค้า ไม่มีข้อกำหนดส่งเงินออกนอกประเทศ มีเขตเศรษฐกิจพิเศษรองรับการลงทุน โดยได้รับอนุมัติไปแล้ว 22 แห่ง ในจำนวนนี้เปิดดำเนินการแล้ว 5 แห่ง
นาย The Sing ประธานสภาธุรกิจมาเลเซียในกัมพูชา ซึ่งเข้ามาลงทุนในกัมพูชานานถึง 20 ปี กล่าวชื่นชมว่าภาครัฐและภาคเอกชนของกัมพูชามีความใกล้ชิดกัน นายกรัฐมนตรีกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะจะพบปะนักลงทุน 2 ครั้ง/ปี ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมจะประชุมหารือกับภาคเอกชนเป็นประจำทุกเดือน สำหรับรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยว จะพบปะกับนักลงทุน 2 ครั้ง/เดือน ปัจจุบันนักธุรกิจของมาเลเซียประสบผลสำเร็จในกัมพูชามาก โดยถือหุ้นในบริษัท Cambrew เจ้าของเบียร์ยี่ห้ออังกอร์ซึ่งครองตลาดกัมพูชามากถึง 70% ถือหุ้นในบริษัทได้รับสัมปทานบริหารท่าอากาศยานของกรุงพนมเปญและนครเสียมราฐของกัมพูชา นอกจากนี้ นักลงทุนมาเลเซียยังเป็นเจ้าของ Nagaworld ซึ่งมีโรงแรมและธุรกิจกาสิโนแห่งเดียวในกรุงพนมเปญ
นาย Kengo Katsuki รองผู้อำนวยการบริษัท มินีแบกัมพูชา ได้กล่าวบรรยายว่า กลุ่มมินีแบได้เริ่มเปิดโรงงานในกัมพูชาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 เป็นต้นมา โดยเริ่มแรกเช่าพื้นที่ก่อน โดยมีพนักงานเริ่มแรก 300 คน จากนั้นในเดือน ธ.ค. 2554 ได้เปิดโรงงานที่ก่อสร้างเป็นของตนเอง โดยมีนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงงาน ปัจจุบันมีพนักงาน 1,300 คน โดยกำหนดเป้าหมายจะเพิ่มพนักงานเป็น 3,000 คน ภายในปี 2556
เดิมบริษัทมินีแบประสบปัญหายุ่งยากต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้าบริเวณชายแดนในการขนส่งชิ้นส่วนระหว่างไทยและกัมพูชา เนื่องจากรถบรรทุกไม่สามารถเดินทางตรงไปยังกรุงพนมเปญได้ แต่ปัญหาได้คลี่คลายลงตั้งแต่เดือน ส.ค. 2554 โดยได้รับอนุญาตให้ขนส่งตรงโดยรถบรรทุกไทยไปยังพนมเปญโดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนถ่ายรถบรรทุก ทำให้ลดเวลาเดินทางจากเดิม 15 ชั่วโมง เหลือ 10 ชั่วโมง แต่ต้นทุนโลจิสติกส์ในการขนส่งยังคงค่อนข้างสูง แม้รัฐบาลกัมพูชาจะพยายามช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ก็ตาม
นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาว่าแรงงานกัมพูชายังไม่คุ้นเคยกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ คนงานหลายส่วนยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ บริษัทต้องจัดหลักสูตรสอนในช่วงเช้าก่อนพนักงานเข้าทำงาน ทั้งภาษาเขมรและภาษาอังกฤษ โดยจูงใจว่าหากสามารถฝึกฝนจนสอบผ่านแล้วจะเพิ่มค่าจ้างให้อีก 1-2 เหรียญ/วัน
การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนของประเทศในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงได้พบปะหารือซึ่งกันและกัน มีความรู้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน อันจะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกันในอนาคต


