วางแผนภาษีเมื่อกรมสรรพากรลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23%
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาว่า
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาว่า หากปีหน้าภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% รายได้เท่าไหร่ที่ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล
กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% อัตราภาษีที่แท้จริงที่เจ้าของธุรกิจเสียจะเท่ากับ 28% ดังรายละเอียดข้างล่าง
กำไรนิติบุคคล 100 บาท
อัตราภาษีนิติบุคคล 20%
เท่ากับเสียภาษี 20 บาท
กำไรสุทธิ 80 บาท
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (เงินปันผล) 10%
เท่ากับเสียภาษี 8 บาท
ผลตอบแทนสุทธิที่เจ้าของธุรกิจได้ 72 บาท
เจ้าของธุรกิจเสียภาษีจริงๆ 28 บาท
หรือเท่ากับ 28%
ดังนั้น หากเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิเพื่อประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ในฐานที่มากกว่า 28% ก็ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เจ้าของธุรกิจที่มีเงินได้สุทธิเกินกว่า 1 ล้านบาท (ฐานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 30%) ก็ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล เพราะแทนที่จะประหยัดภาษีกลับต้องเสียภาษีเพิ่ม ดังตัวอย่าง
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เงินปันผล 80
เครดิตภาษีเงินปันผล 20
รวมรายได้เมื่อขอเครดิตภาษีเงินปันผล 100
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ 37 ตามฐานภาษีสูงสุด
ภาษีที่ชำระแล้ว
เครดิตภาษีเงินปันผล 20
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (เงินปันผล) 8
รวมภาษีที่ชำระแล้ว 28
ภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม 9
เรามาต่อส่วนที่ยังค้างกันอยู่ เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ในการเครดิตภาษีเงินปันผลครับ
nหลักเกณฑ์การได้รับเครดิตภาษีมีดังนี้
1.ผู้รับเงินปันผลต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง หรือผู้ที่ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
2.ผู้มีเงินได้ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในไทย หรือเป็นผู้อยู่ในไทย
3.ได้รับเงินได้ที่เป็นเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งของกำไรจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
4.กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้จ่ายเงินได้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้หลายอัตรา ผู้จ่ายเงินได้ต้องระบุในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ชัดเจนว่าเงินได้ที่จ่ายนั้นจำนวนใดได้มาจากกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราใด
5.หากเลือกนำไปรวมกับเงินปันผลไปรวมเงินได้อื่นเพื่อขอเครดิตภาษี กรณีได้รับเงินปันผลของกำไรที่ได้รับเครดิตภาษีจากผู้จ่ายหลายราย ผู้มีเงินได้จะเลือกเฉพาะบางรายไม่ได้ ต้องนำเงินปันผลที่ได้รับจากทุกรายคำนวณเป็นเงินได้
สิ่งหนึ่งที่ถามกันมากก็คือ หากได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมจะสามารถขอเครดิตภาษีได้หรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ได้ครับ เนื่องจากกองทุนรวมในปัจจุบันเป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อกองทุนรวมจ่ายเงินปันผลและได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10% จึงไม่เกิดการเสียภาษีซ้ำซ้อน ผู้ได้รับเงินปันผลจึงไม่สามารถนำเงินปันผลที่ได้รับไปเครดิตภาษีได้
สุดท้ายก็ขอสรุปอัตราเครดิตภาษีเงินปันผลสำหรับนิติบุคคลต่างๆ ที่มีฐานภาษีต่างกัน (ตามตารางประกอบ)
ขอขอบคุณข้อมูลจากศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (Thailand Securities Institute : TSI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หากสนใจการวางแผนการเงิน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายธนบดีธนกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน โทร. 02-680-3333


