posttoday

วางแผนภาษีเมื่อกรมสรรพากรลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23%

26 มีนาคม 2555

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาว่า

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมาว่า หากปีหน้าภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% รายได้เท่าไหร่ที่ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล

กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 20% อัตราภาษีที่แท้จริงที่เจ้าของธุรกิจเสียจะเท่ากับ 28% ดังรายละเอียดข้างล่าง

กำไรนิติบุคคล 100 บาท

อัตราภาษีนิติบุคคล 20%

เท่ากับเสียภาษี 20 บาท

กำไรสุทธิ 80 บาท

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (เงินปันผล) 10%

เท่ากับเสียภาษี 8 บาท

ผลตอบแทนสุทธิที่เจ้าของธุรกิจได้ 72 บาท

เจ้าของธุรกิจเสียภาษีจริงๆ 28 บาท

หรือเท่ากับ 28%

ดังนั้น หากเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิเพื่อประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ในฐานที่มากกว่า 28% ก็ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เจ้าของธุรกิจที่มีเงินได้สุทธิเกินกว่า 1 ล้านบาท (ฐานภาษีสูงสุดอยู่ที่ 30%) ก็ไม่ควรขอเครดิตภาษีเงินปันผล เพราะแทนที่จะประหยัดภาษีกลับต้องเสียภาษีเพิ่ม ดังตัวอย่าง

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เงินปันผล 80

เครดิตภาษีเงินปันผล 20

รวมรายได้เมื่อขอเครดิตภาษีเงินปันผล 100

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ 37 ตามฐานภาษีสูงสุด

ภาษีที่ชำระแล้ว

เครดิตภาษีเงินปันผล 20

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (เงินปันผล) 8

รวมภาษีที่ชำระแล้ว 28

ภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม 9

เรามาต่อส่วนที่ยังค้างกันอยู่ เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ในการเครดิตภาษีเงินปันผลครับ

nหลักเกณฑ์การได้รับเครดิตภาษีมีดังนี้

1.ผู้รับเงินปันผลต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง หรือผู้ที่ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี

2.ผู้มีเงินได้ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในไทย หรือเป็นผู้อยู่ในไทย

3.ได้รับเงินได้ที่เป็นเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งของกำไรจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

4.กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้จ่ายเงินได้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้หลายอัตรา ผู้จ่ายเงินได้ต้องระบุในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ชัดเจนว่าเงินได้ที่จ่ายนั้นจำนวนใดได้มาจากกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราใด

5.หากเลือกนำไปรวมกับเงินปันผลไปรวมเงินได้อื่นเพื่อขอเครดิตภาษี กรณีได้รับเงินปันผลของกำไรที่ได้รับเครดิตภาษีจากผู้จ่ายหลายราย ผู้มีเงินได้จะเลือกเฉพาะบางรายไม่ได้ ต้องนำเงินปันผลที่ได้รับจากทุกรายคำนวณเป็นเงินได้

สิ่งหนึ่งที่ถามกันมากก็คือ หากได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมจะสามารถขอเครดิตภาษีได้หรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ได้ครับ เนื่องจากกองทุนรวมในปัจจุบันเป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อกองทุนรวมจ่ายเงินปันผลและได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10% จึงไม่เกิดการเสียภาษีซ้ำซ้อน ผู้ได้รับเงินปันผลจึงไม่สามารถนำเงินปันผลที่ได้รับไปเครดิตภาษีได้

สุดท้ายก็ขอสรุปอัตราเครดิตภาษีเงินปันผลสำหรับนิติบุคคลต่างๆ ที่มีฐานภาษีต่างกัน (ตามตารางประกอบ)

ขอขอบคุณข้อมูลจากศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (Thailand Securities Institute : TSI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หากสนใจการวางแผนการเงิน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายธนบดีธนกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน โทร. 02-680-3333

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ