KGSประกาศรักษาแชมป์อันดับหนึ่งบริการขนส่งเงินสด

ธุรกิจการให้บริการขนส่งเงินสด ทั้งการนำเงินไปเติมเต็มใส่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม)

โดย...ชีวรัตน์ กิจนภาธนพงศ์

ธุรกิจการให้บริการขนส่งเงินสด ทั้งการนำเงินไปเติมเต็มใส่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) การบริการขนเงินสดระหว่างสถาบันการเงินกับองค์กรเอกชน เป็นธุรกิจสำคัญที่อำนวยความสะดวกบริการทางการเงินให้ถึงมือผู้ใช้บริการอย่างปลอดภัย ท่ามกลางความเสี่ยงกับการโจรกรรม และเป็นธุรกิจต้องอาศัยความเชื่อมั่นอย่างสูง

“บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ” หรือ KGS เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจของธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันได้ให้บริการขนส่งทรัพย์สินแก่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินชั้นนำ นอกจากนี้ยังได้ให้บริการงานบริหารอาคาร บริหารศูนย์ฝึกอบรม และงาน PRINTING & MAILING แก่สถาบันการเงินและบริษัทในกลุ่มธุรกิจของ KTB อีกหลายแห่ง

ด้วยโจทย์เดิม การจัดตั้ง “เคจีเอส” เมื่อปี 2540 เพื่อที่จะลดต้นทุนการทำงานของธนาคารกรุงไทย มาปี 2555 โจทย์เคจีเอสท้าทายมากขึ้น นอกจากต้องลดต้นทุนธนาคารกรุงไทยแล้ว ยังต้องยืนด้วยตัวเอง พร้อมที่จะหารายได้นอกจากเครือกรุงไทย และรักษาแชมป์อันดับหนึ่งการขนส่งเงินสด

“ดำรง แก้วประสิทธิ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ (KGS) กล่าวว่า นโยบายปี 2555 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ 2,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโต 20% พร้อมกับมีแผนที่จะปรับโครงสร้างรายได้จากลูกค้าเครือธนาคารกรุงไทยลดลงจาก 90% เป็น 80% และเพิ่มสัดส่วนรายได้นอกเครือกรุงไทยจาก 10% เป็น 20%

เคจีเอสได้เริ่มที่จะขยายการให้บริการการขนเงินสดไปสถาบันการเงินของรัฐ ทั้งกรมธนารักษ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยล่าสุดเมื่อปี 2554 ได้รับงานขนเงินใส่ตู้เอทีเอ็มให้กับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย

ดำรง กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง และเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2553 มีส่วนแบ่งการตลาด 31% และในปี 2554 ส่วนแบ่งตลาดเป็น 34% และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5 ปี ปีละ 16% และปีนี้คาดว่าจะโต 20% และยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่งด้านธุรกิจการให้บริการขนเงินสด

“แม้ว่าโจทย์เริ่มแรกการจัดตั้งบริษัทเคจีเอสขึ้นมาไม่ใช่เพื่อแสวงหากำไร แต่จัดตั้งมาเพื่อที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานของธนาคารกรุงไทย และก็ยอมรับว่าการเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทยทำให้ได้งาน เราโตได้เพราะได้รับงานในเครือกรุงไทย แต่ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่เฉยๆ ได้โดยไม่ได้พัฒนาตัวเอง เพราะบริษัทจะต้องแข่งขันกับบริษัทอื่นๆ ให้ได้ด้วย และมีเคพีไอที่ธนาคารจะกำหนดให้ทำว่าจะต้องลดต้นทุนให้ธนาคาร โดยแต่ละปีบริษัทก็ทำให้ธนาคารกรุงไทยลดต้นทุนได้เป็นระดับพันล้านบาท” ดำรง กล่าว

ดำรง กล่าวถึงหัวใจหลักของการ บริการธุรกิจ นอกเหนือจากความพึงพอใจของลูกค้าคือ ความปลอดภัย ที่สำคัญช่วยให้ลดต้นทุนได้ ที่ผ่านมาบริษัทได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน นอกจากลดต้นทุนการทำงานทั้งที่วัดได้และวัดไม่ได้ ทั้งในรูปของต้นทุนการเงินและเวลา

ยกตัวอย่างการนำระบบ “โมบายดีไวซ์ แมเนจเมนต์ โซลูชัน หรือเอ็มดีเอ็ม” ซึ่งเป็นระบบที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการส่งข้อมูลแบบออนไลน์ ทดแทนการจดบันทึกด้วยเอกสารและจัดเก็บลงฐานข้อมูลเพื่อลดต้นทุน หลังจากที่ประสบความสำเร็จการจัดการระบบเอทีเอ็มให้กับธนาคารกรุงไทย โดยการนำระบบไอทีมาเพิ่มประสิทธิการทำงาน ทำให้ต้นทุนลดลง 2030% โดยในปีนี้ต่อยอดนำระบบเอ็มดีเอ็มมาใช้กับการขนส่งเงินด้วยกับลูกค้าทั่วไป ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าขั้นตอนของเงินที่ขนส่งอยู่ตรงไหนแล้ว

ในอนาคตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายที่จะลดธุรกรรมการใช้เงินสด เพื่อลดต้นทุนการพิมพ์ธนบัตรและการขนส่ง โดยสนับสนุนให้มาใช้ระบบเคลียริง หรือการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน ในขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์เริ่มที่จะนำเครื่องกดเงินสดที่สามารถฝากและถอนในเครื่องเดียวกันได้ ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ลดต้นทุนได้กว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งค่าเช่าสถานที่ติดตั้งเครื่อง และค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาและค่าขนส่งเงินหรือนำเงินไปใส่ตู้เอทีเอ็ม อาจจะกระทบกับธุรกิจของบริษัทบ้างเล็กน้อย ดังนั้นต้องพัฒนาธุรกิจมาเสริม

ธุรกิจงานการพิมพ์จดหมายติดต่อกับลูกค้าของสถาบันการการเงิน (PRINTING & MAILING ) ถือว่าเป็นธุรกิจที่ยังมีลู่ทางที่จะเติบโตอีกมาก โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการทำธุรกิจใหม่ การนำระบบการพิมพ์จดหมายถึงลูกค้าที่ธนาคารจะต้องส่งให้ลูกค้าทุกเดือน เช่น ใบแจ้งรายการความเคลื่อนไหวบัญชี (สเตรตเมนต์) โดยไม่ต้องใช้ซอง จะทำให้ลดต้นทุนการใช้ซองซองละ 60 สต. ซึ่งแต่ละเดือนพิมพ์จดหมายประมาณ 56 แสนฉบับ ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 10 ล้านบาท โดยภายใน 23 ปีก็คุ้มทุน และยังสามารถที่จะขยายรับเกี่ยวการพิมพ์จดหมายถึงลูกค้านอกเครือกรุงไทยได้ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวสูงมาก

ด้านพนักงานเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทที่จะก้าวสู่เป้าหมายได้ ไม่ใช่ทำให้มีกำไรสูงสุด แต่ต้องลดต้นทุนมากที่สุดไม่ใช่ว่ามาลดต้นทุนค่าใช้จ่ายพนักงาน แต่จะต้องกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมคิดช่วยลดต้นทุนต่างๆ จัดให้มีโครงการ “ทำดีมีรางวัล” โดยให้พนักงานคิดโครงการที่จะลดค่าใช้จ่าย และส่วนลดค่าใช้จ่ายได้จะแบ่งเป็นเงินรางวัลพนักงาน เช่น ปีแรกเข้ามาทำงาน มีการเปลี่ยนการใช้น้ำมันจากยี่ห้ออื่นมาใช้ ปตท. ที่มีแคมเปญกับบัตรเครดิตกรุงไทย ซึ่งทำให้บริษัทลดต้นทุนได้ปีละกว่า 10 ล้านบาท เอาเงินมาจ่ายเป็นโบนัสพนักงาน ปีนี้ก็มีโครงการเปลี่ยนรถใช้น้ำมันมาใช้ก๊าซ ก็คาดว่าค่าใช้จ่ายจะลดลง นอกจากนี้ยังมีโครงการที่พนักงานเงินเปลี่ยนกล่องขนเงินจากไฟเบอร์มาเป็นถุงผ้า นอกจากจะขนย้ายสะดวกแล้ว ต้นทุนก็ลดลงกว่า 2 ใน 3