คลาวด์ส่วนตัวเปิดใช้ฝากไฟล์ได้ทุกที่
บริการฝากไฟล์ ถือเป็นบริการที่เริ่มได้รับความนิยม โดยใช้พื้นฐานง่ายๆ จากระบบคลาวด์คอมพิวติง
โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์
บริการฝากไฟล์ ถือเป็นบริการที่เริ่มได้รับความนิยม โดยใช้พื้นฐานง่ายๆ จากระบบคลาวด์คอมพิวติง แม้จะไม่ได้มีแอพพลิเคชันอะไรมาเกี่ยวข้องด้วยมากมายนัก นอกเหนือจากความเร็วของอินเทอร์เน็ตและขนาดความจุของสตอเรจที่มีเปิดให้บริการ ถามถึงความจำเป็นแล้ว สำหรับคนใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ คงเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย ที่ผ่านมาอาจมีการใช้ในรูปแบบของอีเมล จะส่งผ่านข้อมูลอะไรก็ส่งเข้าอีเมลไว้แล้วก็ดาวน์โหลดลงมาใช้งาน แต่ต่อไปไม่ต้องใช้อีเมลแล้ว แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดเก็บไฟล์อะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดที่ผู้ให้บริการนั้นๆ จะกำหนดไว้
สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับการจัดเก็บไฟล์ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านเห็นได้ชัด คือ หากคอมพิวเตอร์มีการเสียหาย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ในอีกทางหนึ่งคือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก ขอเพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มีความเร็วที่เพียงพอ ก็สามารถดึงไฟล์ข้อมูลลงมาได้ทันที หลักการใช้งานเหมือนอีเมล คือ สมัครโดยลงทะเบียนและล็อกอินเพื่อเข้าใช้ เพียงแต่ต้องติดตั้งโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือติดตั้งแอพพลิเคชันบนสมาร์ตดีไวซ์ต่างๆ แต่เชื่อว่าต่อไปบริการอาจจะย้ายไปเป็นเว็บเซอร์วิส นั่นคือไม่ต้องติดตั้ง แต่เรียกใช้งานผ่านเบราเซอร์ได้เลย เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลากหลายมาก แต่ถ้าพูดถึงรายใหญ่ๆ เช่น Dropbox จากค่ายไมโครซอฟท์ iCloud จากค่ายแอปเปิล Google Drive จากกูเกิล
บริการนี้ถือว่าได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ เพราะด้วยความที่อุปกรณ์พกพาต่างๆ มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และพวกอุปกรณ์พกพานี่เองที่มีขนาดเล็ก บาง เบา ความจุก็ลดลง นอกจากเพื่อลดขนาดและน้ำหนักแล้ว ยังเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงาน ดังเห็นได้จากอัลตราบุ๊ก แท็บเล็ตและสมาร์ตโฟน ที่จำกัดความจุ แต่ใช้การเก็บไฟล์ข้อมูลไว้บนคลาวด์ อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงบัญชีชื่อผู้ใช้ทั้งคอมพิวเตอร์ที่บ้าน โน้ตบุ๊ก และสมาร์ตโฟนไว้ด้วยกัน ทำให้ทุกอุปกรณ์เสมือนมีศูนย์รวมข้อมูลแห่งเดียว ในเชิงธุรกิจ บริการนี้เหมาะสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี เนื่องจากสามารถฝากไฟล์งานขนาดใหญ่ไว้ได้ อาจใช้ในการส่งไฟล์งานขนาดใหญ่ระหว่างกันก็ได ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้ ให้ลงมือได้ทันที
หากจะพิจารณาผู้ให้บริการหลัก ต้องยกให้ Dropbox ที่มีให้บริการมาพอสมควรแล้ว มีขนาดความจุ 2 กิกะไบต์สำหรับบริการฟรี มากกว่านั้นต้องเสียค่าบริการรายเดือน ซึ่งในเชิงธุรกิจถือว่าไม่สูงนัก แต่คนทั่วไปอาจจะชะลอการใช้แบบเสียค่าบริการ ทดลองใช้แบบฟรีๆ ให้รู้ก่อนก็ได้ ซึ่ง Dropbox จะเน้นฝากไฟล์ทุกรูปแบบ รองรับทั้งแอนดรอยด์ ไอโฟน และไอแพด สามารถส่งต่อเข้าอีเมลได้ โยกย้ายถ่ายโอนข้อมูลไปมาได้ทันที
ผู้ให้บริการอีกรายที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาก คือ iCloud จากแอปเปิล ที่เน้นการแบ็กอัพข้อมูลในผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลทั้งหมด โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นส่วนของเพลง ภาพยนตร์ มิวสิกวิดีโอ ที่ซื้อในไอทูนส์ผ่าน iCloud เท่ากับว่าการซื้อคอนเทนต์ต่างๆ เหล่านั้นได้ถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่สตอเรจ iCloud จึงสามารถเรียกใช้งานได้จากทุกๆ ผลิตภัณฑ์แอปเปิล ไอโฟน ไอแพด ไอพอด แมคบุ๊ก ซึ่งยังรวมถึงไฟล์รูปภาพ รายชื่อติดต่อ ตารางงานปฏิทิน และรายชื่ออีเมล เป็นบริการที่ให้ความสะดวกสบายกับผู้ใช้ของแอปเปิลโดยเฉพาะ ในประเทศไทยก็สามารถใช้งานได้ เพียงแต่จุดเก็บข้อมูลอยู่ไกลถึงสหรัฐอเมริกา หรือในภูมิภาคอื่นๆ ดังนั้นความเร็วอาจจะไม่รวดเร็วทันใจนัก และต้องเป็นระบบปฏิบัติการไอโอเอส 5 ขึ้นไปที่รองรับการใช้งานได้ ใครเก่ากว่านั้นก็ต้องไปอัพเกรดหรือเปลี่ยนรุ่นอุปกรณ์ใหม่ (โมเดลธุรกิจตามปกติของแอปเปิลที่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่)
ขณะที่ Google Drive จะทำงานลักษณะใกล้เคียงกับ Dropbox แต่จุดเด่น คือ มีการเชื่อมโยงการทำงานกับบริการอื่นๆ ภายใต้กูเกิล คือ กูเกิลพลัส จีเมล และยูทูบ รวมถึงบริการอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าต่อไปจะต้องเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้ามาอีกอย่างแน่นอน เป็นการสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองเพื่อแข่งขันดึงผู้ใช้บริการให้เพิ่มขึ้น เพราะอย่างที่รู้อยู่แล้วว่าโลกออนไลน์การสร้างรายได้ไม่ได้มาจากการเก็บค่าบริการเท่านั้น แต่จำนวนผู้ใช้ที่มหาศาลจะสร้างรายได้จากมุมที่แตกต่างกันได้อีกมาก
ขั้นต่อไปของบริการฝากไฟล์ ต้องมีบริการเสริมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือมีบริการแอพพลิเคชันใหม่อย่างแน่นอน เพราะดูจากตอนนี้บริการรับฝากไฟล์ยังเป็นเพียงการใช้ความเร็วและขนาดความจุเท่านั้น ต่อไปอาจมีส่วนการป้องกันความปลอดภัย การกู้คืนข้อมูล หรือบริการใดๆ ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับผู้ให้บริการ
สำหรับในประเทศไทย บริการนี้เริ่มมีการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้บริการฟรีอยู่ที่ประมาณ 2 กิกะไบต์ เทียบได้กับทัมบ์ไดรฟ์ แต่ต่อไปถ้ามีการขยายขนาดความจุ การมีพื้นที่จัดเก็บพกติดตัวไปด้วยก็ช่วยให้สะดวกสบายขึ้น
ถึงจุดนี้คงมองเห็นภาพของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างชัดเจน เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ทำให้เราวางแผนการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องมือที่มีขนาดความจุใหญ่ๆ อีกต่อไป การมีบริการฝากไฟล์ไว้บนคลาวด์ ทำให้การวางแผนการจัดเก็บข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น เพราะบริการนี้ก็เปรียบเสมือนฮาร์ดดิสก์ที่ลอยอยู่บนฟ้าอยู่แล้ว จะอยู่ที่ไหนก็ดึงมาใช้งานได้ทันที


