สั่งรื้อค่าต๋ง‘เอทีเอ็มพูล’
ธปท.ตื่นขานรับลูกทีดีอาร์ไอ หวั่นธนาคารฮั้วราคากันเอง
โพสต์ทูเดย์
— ธปท. รับลูกทีดีอาร์ไอสั่งรื้อค่าต๋งระบบการโอนเงินของบริษัท ITMX ที่ธนาคารร่วมลงขันฟาดฟันกำไรจากผู้ใช้บริการแหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กำลังพิจารณายกเลิกการกำหนดเพดานของค่าธรรมเนียมในส่วนของผู้สั่งโอน สำหรับบริการโอนเงินแบบหลายรายการ และการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มที่ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ร่วมกันใช้บริการผ่าน บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ (ITMX) ซึ่งแปรสภาพมาจากบริษัท เอทีเอ็มพูล ตามที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอแนะ
สาเหตุที่ต้องพิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงระบบดังกล่าวให้เหมาะสม เพราะปัจจุบัน ITMX เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในการให้บริการโอนเงินระหว่างธนาคารหรือมีการโอนเงินข้ามเครือข่าย แต่มีการคิดเงินในอัตราที่สูงเกินจริง แล้วนำเงินรายได้ที่เกิดขึ้นมาจ่ายปันผลระหว่างผู้ถือหุ้น
“
ข้อสังเกตในเรื่องการฮั้วราคา ผูกขาด และมีการตั้งราคาสูงเกินไปนั้นมีเหตุผล เพราะธนาคารผู้รับโอนเงินและธนาคารผู้โอนเงินสามารถกำหนดราคาร่วมกันและทำให้ไม่มีการแข่งขันกัน เราวิตกกังวลในเรื่องนี้กันมาก” แหล่งข่าวเปิดเผยทั้งนี้ ธปท. จะมีการหารือร่วมกับสถาบันการเงินทั้งหมดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อให้มีการปรับวิธีหรือลดราคาการคิดค่าบริการลงมา
“
ในเบื้องต้น ธปท. คงจะต้องสอบถามผู้บริหารธนาคารทหารไทย ทิสโก้ ธนชาต ดูอีกครั้ง เพราะเป็นธนาคารที่ประกาศยอมรับภาระในธุรกรรมการถอน โอนเงินฟรี แต่สามารถมีกำไรอยู่” แหล่งข่าวเปิดเผยแหล่งข่าว ธปท. เปิดเผยว่า ความจริงแล้วค่าบริการต่างๆ นั้น ธปท. ได้เปิดให้ธนาคารแต่ละแห่งสามารถกำหนดได้เองตามกลไกตลาดอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อมีการยกเลิกอัตราเพดาน หรือการปรับระบบแล้วจะทำให้เกิดการแข่งขันที่แท้จริง
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องพิจารณาประกอบคือการยกเลิกหรือการปรับเปลี่ยนค่าบริการต่างๆ ต้องพิจารณาถึงระบบด้วย เพราะขณะนี้มีธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการลงทุนเอทีเอ็มเพื่อเป็นช่องทางในการให้บริการแก่ลูกค้าให้ครอบคลุม กับธนาคารที่เป็นลูกพ่วงไม่ยอมลงทุนในเรื่องการติดตั้งเครื่องเอทีเอ็ม แต่ยอมจ่ายเงินให้กับธนาคารที่ลงทุนเอทีเอ็มหากลูกค้าไปกดเงินหรือมีคำสั่งโอนเงิน ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นในธุรกิจ
สำหรับบริษัท ITMX มีผู้ถือหุ้น 11 ราย ธนาคารกรุงเทพถือหุ้น 27% กรุงไทย 17.38% ไทยพาณิชย์ 16.5% กสิกรไทย 15% กรุงศรี อยุธยา 8.6% ทหารไทย 6.13% นครหลวงไทย 3.8% ยูโอบี (ไทย) 2.71% ส่วนที่เหลือนั้นซีไอเอ็มบีไทย ธนชาต สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ถือหุ้นรายละ 1% ปัจจุบันมีสมาชิก 32 ราย มีการคิดเงินจากสมาชิกเป็นรายปีประมาณ 1525 ล้านบาท โดยคิดค่าสมาชิกตามวัตถุประสงค์ของการใช้บริการ


