สยามคูโบต้าทุ่ม2พันล.ฟื้นโรงงานนวนคร

สยามคูโบต้าทุ่มงบ 2,000 ล้าน ฟื้นฟูโรงงานในนวนครพร้อมเดินหน้าขยายการผลิตเพื่อส่งออกสหรัฐ

มาซาโทชิ คิมาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาโรงงานของคูโบต้า ที่นวนคร ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูการผลิตให้กลับมาเดินเครื่องให้เร็วที่สุด ซึ่งคูโบต้าใช้งบประมาณฟื้นฟูโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของการประกอบเครื่องยนต์ เริ่มดำเนินการได้แล้ว ส่วนการผลิตรถไถเดินตามจะเริ่มประกอบได้ในช่วงเดือนม.ค. ส่วนการผลิตชิ้นส่วนได้ย้ายการผลิตไปที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร โดยชิ้นส่วนที่ยังผลิตไม่ได้ก็นำเข้าจากคูโบต้า อินโดนีเซีย เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบต่อลูกค้า และตัวแทนจำหน่ายของคูโบต้า ส่วนการจะกลับมาเดินกำลังการผลิตเต็มที่ยังติดปัญหาเรื่องการนำเข้าเครื่องจักรขนาดใหญ่อยู่ โดยจะนำเข้ามาได้ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ซึ่งเมื่อประกอบติดตั้งเสร็จ ก็จะสามารถเดินเครื่องได้เต็มที่

“เชื่อว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ และหลังจากนี้จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก ส่วนสิทธิประโยชน์บีโอไอนั้นเป็นประโยชน์มาก เพราะเราต้องนำข้าเครื่องจักรใหม่เข้ามา แต่กระบวนการควรจะทำอย่างรวดเร็ว”นายคิมาตะ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้คูโบต้าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรง แต่ก็ยังเชื่อมั่นในประเทศไทย และพร้อมที่จะขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2555 ธุรกิจจะมีอัตราการเจริญเติบโต 20% จากปีนี้ รวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยคูโบต้ามีแผนส่งออกแทรกเตอร์ไปยังทวีปอเมริกาเหนือใน 2555 จากนั้นจึงจะขยายมายังภูมิภาคเอเชียใน 2556 และวางแผนจะส่งออกไปยุโรปต่อไป ซึ่งแทรกเตอร์ที่เตรียมส่งออกไปยังอเมริกาเหนือคิดเป็น 10% ของยอดการผลิตทั้งหมด ส่วนยอดการผลิตอีก 90% ยังคงผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยไทยมีฐานการผลิตรถแทรกเตอร์อยู่ที่นิคมฯอมตะนคร จังหวัดชลบุรี

ขณะเดียวกันจะเดินหน้าการลงทุนตามแผนที่วางไว้ โดยได้ก่อตั้งโรงงานสำหรับหล่อชิ้นส่วนแทรกเตอร์ ภายใต้ชื่อบริษัทสยามคูโบต้าเมทัลเทคโนโลยี ผลิตเพื่อส่งออกให้สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น และคูโบต้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นการขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งยังลงทุนจัดตั้งบริษัทคูโบต้า เอ็นจิ้น (ไทยแลนด์) ผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในเดือนต.ค. 2555 เพื่อขยายการผลิตในประเทศไทยให้แข็งแกร่งขึ้น

ทั้งนี้ การขยายการลงทุนดังกล่าวจะทำให้มีการผลิต และการจ้างงงานเพิ่มขึ้นในเมืองไทย โดยเชื่อว่าโรงงานผลิตแทรกเตอร์ที่นิคมฯอมตะนคร จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 กะ และอาจต้องจ้างงานเพิ่มอีก 30-50%

"การขยายการผลิตให้ครบวงจรมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการจ้างงานในเมืองไทย และเศรษฐกิจในประเทศ โดยบุคลากรไทยมีความสามารถ และมีฝีมือมาก"นายคิมาตะ กล่าว