กลุ่มซีไอเอ็มบี กำไร2.8หมื่นล. โตประวัติการณ์
โพสต์ทูเดย์
— กลุ่มซีไอเอ็มบีแห่งมาเลเซีย ประกาศกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.8 หมื่นล้าน ปี 2552 พุ่งขึ้น 43% จากปีก่อน โตทะลุเป้าดะโต๊ะ ศรี นาเซียร์ ราซัค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี (CIMB Group) ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหุ้นไทยแห่งที่ 2 (ดูโอลิสติง) เดือน มิ.ย. นี้ เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2552 ว่า มีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมีกำไรสุทธิ 2,807 ล้านริงกิต หรือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.8% จากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เฉพาะไตรมาส 4 ทางกลุ่มมีกำไรถึง 803 ล้านริงกิต หรือประมาณ 8,030 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา 10.5% และเพิ่มขึ้นถึง 151.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
“
ปี 2552 ที่ผ่านมา ธนาคารมีผลงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งทำได้ตามเป้าและทะลุเป้าที่ตั้งไว้” ดะโต๊ะ ศรี นาเซียร์ ราซัค กล่าวทั้งนี้ ทางกลุ่มได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 18.5 เซนต์ต่อหุ้น เท่ากับ 1.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลที่จ่ายทั้งสิ้น 653 ล้านริงกิต หรือประมาณ 6,530 ล้านบาท และได้ออกหุ้นเพิ่มทุนโดยให้สิทธิจองซื้อแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
ขณะเดียวกันทางกลุ่มยังมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เท่ากับ 15% ซึ่งสูงกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 12.5% และเป็นไปตามเป้าใหม่ที่ 1415%
สำหรับผลดำเนินงานของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ทำให้กำไรสุทธิปี 2552 เท่ากับ 1.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายจุดคุ้มทุนของกลุ่มในปี 2552


