ธปท.คาดขายหุ้นSCIBจบกลางมี.ค.เจรจาคืบหน้ามาก

ธปท.เผยเจรจาขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยน่าจะจบ ในการประชุมครั้งหน้ากลางเดือนมี.ค.นี้ หลังตกลงกันได้เกือบครบทุกเงื่อนไข

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายจัดการกองทุน ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาเพื่อสรุปเงื่อนไข ในการซื้อขายหุ้นของธนาคารนครหลวงไทยที่กองทุนฟื้นฟูฯถืออยู่ 47.58% ร่วมกับนักลงทุนรายที่สนใจ ตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณา 4 ข้อ คือ 1 .ในการขายต้องเข้าใจคำจำกัดความต่างๆ ตรงกัน 2.ขบวนการขายหุ้น การแลกหุ้น และการชำระเงิน 3.บทบาทหน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขาย และ4.การของผ่อนผันในหลักเกณฑ์การเข้าถือหุ้น

“จากเกณฑ์ 4 เรื่อง เราตกลงกันได้แล้ว 2 เรื่อง คือ เข้าใจคำจำกัดความต่าง ๆ ตรงกัน และได้วางเงื่อนไขขั้นตอนการซื้อขาย แลกหุ้น รวมถึงกระบวนการจ่ายเงิน แต่อีก 2 เรื่อง นั้น คือ การเข้าบริหารธนาคาร ราคาหุ้นที่จะซื้อขาย รวมถึงเงื่อนไขในการซื้อขายอื่น ยังต้องตกลงกันอีก แต่คิดว่าทั้ง 2 เรื่องนี้จะสามารถสรุปได้ในการประชุมบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯช่วงกลางเดือนหน้า ซึ่งน่าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก็จบเรื่องนี้ได้” นางทองอุไรกล่าว

ทั้งนี้ หากสามารถตกลงเงื่อนไขทั้ง 4 เรื่องจบ ได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว กองอทุนฟื้นฟูฯจะต้องส่งเงื่อนไขการซื้อขายทั้งหมดให้นักลงทุนรายที่ชนะทราบภายใน 1 สัปดาห์ โดยขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯก็เร่งเจรจาให้เสร็จโดยเร็ว คาดว่าหากไม่มีปัญหามากนัก น่าจะลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นได้ภายในเดือน มี.ค.นี้

และหลังจากการลงนามสัญญาซื้อขายแล้ว ก็จะกำหนดขั้นตอนการทำงานในเรื่องต่างๆ เช่น การอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้เกิน49% การแลกหุ้นระหว่างธนาคารที่อาจจะทำได้เกิน 10% ขั้นตอนการเข้าบริหาร การแต่งตั้งผู้บริหาร ฯลฯ ซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะ อย่างกรณีขายไทยธนาคารขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน และเมื่อทำทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นจะกำหนดจ่ายเงินค่าหุ้นภายใน 7 วัน ต่อจากนั้นจะกำหนดการโอนหุ้น จึงจะถือว่าขายเสร็จสมบูรณ์

นางทองอุไร กล่าวว่า ถึงกองทุนฟื้นฟูฯจำเป็นต้องขายหุ้นธนาคารออกตามนโยบาย แต่การขายหุ้นไม่ได้หมายความว่าจะยอมทุกเงื่อนไขที่ผู้ชนะการประมูลเสนอมา เพราะบอร์ดกองทุนฟื้นฟฯตกลงกันแล้วว่า จะยอมเท่าที่จะยอมได้  เพราะถึงจะถือต่อไปอีกระยะก็ไม่ได้เสียหายไม่เน่าเสีย อย่างไรก็ตามหากตกลงกันได้ดีก็จะเร่งขายให้เร็วที่สุด