posttoday

เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังอาชีพธรรมดาแต่..รวย

21 สิงหาคม 2554

มีโอกาสไปเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ไปดูชาวบ้านที่นั่นเขาเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง

มีโอกาสไปเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ไปดูชาวบ้านที่นั่นเขาเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง

โดย...สมชาย บุญเหลือ

มีโอกาสไปเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ไปดูชาวบ้านที่นั่นเขาเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง รายที่ไปดูถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำแม่กลองก็ว่าได้ มีประมาณ 300 กระชัง เรียงรายเต็มผืนน้ำ บริเวณหมู่ 2 ต.บางนกแขวก อ.บางคนที เป็นธุรกิจที่บุกเบิกโดย เฮียกู้วรชัย แสงวณิช ปัจจุบันวัย 63 ปี แต่ร่างกายยังกระฉับกระเฉง

ดั้งเดิมครอบครัวมีอาชีพค้าขายไม้ ตามที่เตี่ยก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา ในที่สุดเขาก็ปล่อยให้ญาติพี่น้องบริหารกันเอง แล้วผันตัวมาเลี้ยงปลาช่อนเมื่อ 20 ปีก่อน โดยคิดว่า การเลี้ยงปลาเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เพราะไม่มีใครเลี้ยง

เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังอาชีพธรรมดาแต่..รวย

เลี้ยงปลาช่อนอยู่หลายปี ก่อนจะหันมาเลี้ยงปลาทับทิมอย่างจริงจังในปี 2539 เนื่องจากได้พี่เลี้ยงดี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟเขาสนับสนุน เริ่มแรกเลี้ยงเพียง 4 กระชัง ปรากฏว่าผลการเลี้ยงมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องขยายกระชังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน บริเวณหน้าบ้านมีกระชังเลี้ยงปลาเต็มพื้นที่จนต้องไปเช่าพื้นที่บริเวณอื่นเลี้ยงด้วยรวมแล้วเกือบ 300 กระชัง สามารถเลี้ยงปลาทับทิมออกสู่ตลาดเฉลี่ยเดือนละ 3 ตัน หรือ 3,000 กิโลกรัม

ทุกวันนี้ เฮียกู้กลายเป็นผู้เลี้ยงปลาทับทิมรายใหญ่ใน จ.สมุทรสงคราม และที่น่าสนใจยังต่อยอดธุรกิจ สร้างรีสอร์ตชื่อ “บ้านปลาทับทิมแม่กลองรีสอร์ท” มารองรับธุรกิจเลี้ยงปลาทับทิมได้อีกด้วย

เฮียกู้ กล้าประกาศว่า เขาเป็นรายแรกของประเทศที่เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง โดยเริ่มจากซีพีให้ลูกพันธุ์มาทดลองเลี้ยง ปรากฏว่าประสบความสำเร็จ เลยต้องเปลี่ยนบ่ออนุบาลลูกปลาช่อนมาอนุบาลเลี้ยงปลาทับทิมอย่างจริงจังแทน เพราะมีตลาดตลอดทั้งปี เนื่องจากซีพีหาตลาดให้

เขาพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ปลาทับทิมดีกว่าปลาชนิดอื่น รสชาติก็อร่อย และไม่มีกลิ่น เนื่องจากเลี้ยงในแม่น้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี เพราะคุณภาพน้ำแม่กลองถือว่าดีที่สุดในภาคกลาง ปลาทุกตัวที่เลี้ยงจากแม่น้ำแม่กลอง ยืนยันไม่มีกลิ่นแน่นอน

สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงปลา ก่อนจะเริ่มปล่อยลงในกระชังต้องเลี้ยงลูกปลาในบ่ออนุบาลให้แข็งแรงก่อน โดยนำลูกพันธุ์มาจากซีพีขนาด 1 เซนติเมตร ประมาณเท่าใบมะขาม เลี้ยงประมาณ 2 เดือน ก่อนจะย้ายไปลงในกระชัง ข้อดีของลูกพันธุ์ซีพีจะเลี้ยงง่าย โตเร็ว และไม่เป็นโรค

แต่ละรุ่นจะนำลูกพันธุ์มาลงประมาณ 23 หมื่นตัวต่อบ่อ ซึ่งในฟาร์มแห่งนี้มีอยู่ประมาณ 10 บ่อ เหตุที่ไม่เพาะพันธุ์เอง เฮียกู้ยอมรับคุณภาพสู้ของซีพีไม่ได้ ทั้งคุณภาพและรูปลักษณ์ ส่วนปัญหาในบ่ออนุบาล คือ ต้องระวังนกมาโฉบเอาลูกปลาไปกิน ต้องสร้างตาข่ายมาป้องกันเพราะนกแสกชุมมาก จะมาโฉบปลาไปกินช่วงกลางคืน แต่หลังจากขึงตาข่ายก็ช่วยได้เกือบ 100%

ทั้งนี้ เมื่อได้ลูกปลาตามที่ต้องการแล้ว ก็นำมาปล่อยรวมกันในกระชังในแม่น้ำ เพื่อรอการคัดไซส์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ปลาคุ้นเคยกับน้ำเสียก่อน ประโยชน์ของการคัดไซส์จะทำให้ปลาโตเท่ากัน จะง่ายต่อการคัดขนาดให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า หากปลาน้ำหนักมากเกินไปก็ขายยาก

 

เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังอาชีพธรรมดาแต่..รวย

ปลาในกระชังของเฮียกู้ จะมีทุกไซส์ แต่ไซส์ที่ลูกค้าต้องการคือ 69 ขีด ราคาก็จะมีขึ้นมีลงตามฤดูกาล แต่ในปัจจุบันราคาขนาด 69 ขีด ราคาขายหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 7580 บาท ถ้าไซส์ต่ำกว่านี้ราคาก็ลดลงไปอีก อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาตกวันละ 100 กระสอบ เพราะปลากินอาหาร 3 มื้อ เคล็ดลับการเลี้ยงปลาให้โตและมีคุณภาพ ขึ้นอยู่กับอาหารเป็นสำคัญ ต้องใช้อาหารเม็ดที่มีคุณภาพดีเท่านั้น

สำหรับการหาตลาด เฮียกู้บอกไม่กังวล ถ้าขายเองไม่ได้ ซีพีจะรับขายให้ทั้งหมดคือ หาตลาดให้ บางครั้งที่เลี้ยงไม่พอขาย ต้องไปรับปลาเนื้อของซีพีมาขายด้วย อาหารของซีพีมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ทำให้อัตราแลกเนื้อสมดุลกัน

เฮียกู้บอกว่า การเลี้ยงปลาทับทิมตั้งแต่อนุบาลในบ่อและนำมาลงเลี้ยงในกระชัง ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 เดือน สามารถจับขายได้ จะได้ไซส์ 69 ขีด

นอกจากนั้น ที่บ้านปลาทับทิมรีสอร์ทแห่งนี้ ยังมีศูนย์เรียนรู้เพื่อสอนวิชาการเลี้ยงปลาให้คนที่สนใจด้วย เดิมก็เลี้ยงอย่างเดียว เมื่อมีคนสนใจมาสอบถามมากขึ้นก็เลยเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้สอนวิธีการเลี้ยงปลาอย่างจริงจังเสียเลย และยังเป็นศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวทางการเกษตรเชิงนิเวศด้วย เรียกว่ามาที่นี่แห่งเดียว คุ้ม ได้ความรู้กลับไปหลายอย่าง

สำหรับคนที่ต้องการหาที่พักบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ยามเช้าและยามเย็นจะเห็นแสงพระอาทิตย์กระทบผิวน้ำระยิบระยับ มาบ้านปลาทับทิมรีสอร์ทแห่งนี้ รับรองไม่ผิดหวัง ทางเฮียกู้เขาต่อยอด สร้างรีสอร์ตไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย เป็นธุรกิจที่ต่อยอดจากการเลี้ยงปลา ประมาณว่าเมื่อคนมาดูการเลี้ยงปลาแล้ว อยากจะพักผ่อนก็มีที่พักไว้บริการนั่นเอง ปัจจุบันรีสอร์ตแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีคิวจองโดยเฉพาะช่วงวันเสาร์อาทิตย์ยาวเหยียด แต่วันธรรมดาพอจะหาที่พักได้

ฐิติธัญ แสงวณิช หรือ ธัญ ลูกชายเฮียกู้ ปัจจุบันเข้ามาดูแลกิจการรีสอร์ตให้พ่อ ต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเอง เขาเล่าว่า รีสอร์ตแห่งนี้มีครบตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี หากมาเป็นครอบครัวก็มีห้องเล็กกะทัดรัดให้ หากมาเป็นหมู่คณะก็มีห้องใหญ่ให้พัก รวมถึงห้องสัมมนาต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละหลายสิบคน

ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาพัก เริ่มแรกจะเป็นลูกค้าที่มาศึกษาวิธีการเลี้ยงปลาทับทิมก่อน แต่พอเริ่มรู้ว่ามีรีสอร์ตก็เริ่มเข้ามาพักผ่อนก่อน ส่วนการศึกษาวิธีเลี้ยงปลาเป็นผลพลอยได้ ช่วงหลังเมื่อแขกมากขึ้นก็มีการขยายห้องเพิ่มขึ้นจาก 5 หลัง ปัจจุบันมีห้องพักถึง 40 ห้อง

จุดเด่นอีกอย่างของรีสอร์ตแห่งนี้คือ อาหารเมนูปลาทับทิมแสนอร่อย เช่น ปลาทับทิมนักเก็ต ปลาทับทิมนึ่งมะนาว และปลาทับทิมทอดกระเทียม ลูกค้าใครมาก็ต้องสั่ง 3 เมนูนี้

ธัญฝากบอกว่า ใครอยากเลี้ยงปลาแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้มาที่บ้านปลาทับทิมแม่กลองรีสอร์ท ที่นี่จะสอนทุกอย่าง เข้ามาแบบไม่มีความรู้เลย กลับออกไปก็จะได้ความรู้ไปอย่างเต็มที่ เพราะที่นี่เป็นห้องเรียนที่สอนจริงเห็นจริง ตั้งแต่ต้นจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย รับรองไม่ผิดหวัง

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025