ชำแหละกลไก "หุ้นลม" นักการเมืองไทย-กัมพูชา มีเอี่ยวกาสิโนชายแดน แลกผลประโยชน์แสนล้าน

ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จากกรณีพิพาทที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนำไปสู่การปรับลดเวลาทำการของด่านชายแดนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 

 

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน แต่ยังเปิดโปงให้เห็นถึง "เครือข่ายผลประโยชน์มหาศาล" ที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังธุรกิจกาสิโนตามแนวชายแดน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงแสนล้านบาท

 

 

เจาะลึกเครือข่ายชนชั้นนำผู้ทรงอิทธิพล

 

จากรายงานการวิจัยของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เรื่อง "เครือข่ายชนชั้นนำทางเศรษฐกิจการเมืองและผลกระทบของบ่อนกาสิโนตามชายแดนไทย-กัมพูชา" เผยให้เห็นว่าการลงทุนในบ่อนกาสิโน

 

โดยเฉพาะในจังหวัดจันทบุรีและตราด ดำเนินการภายใต้เครือข่ายทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:

 

• กลุ่มชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ: ประกอบด้วยนักธุรกิจท้องถิ่น นักธุรกิจจากกรุงเทพฯ และนักธุรกิจข้ามชาติจากสิงคโปร์ รวมถึงมาเลเซีย

 

• กลุ่มชนชั้นนำทางการเมือง: รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นของไทยตั้งแต่ระดับ อบจ. ขึ้นไป และนักการเมืองกัมพูชา ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด

 

กรณีศึกษา "เกาะกง" อาณาจักรผลประโยชน์ทับซ้อนระดับชาติ

กรณีศึกษาที่โดดเด่นคือ บ่อนกาสิโนเกาะกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมเกาะกง รีสอร์ท ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรคลองใหญ่เพียง 800 เมตร

 

เจ้าของกิจการคือ ออกญา ลี ยงพัด หรือที่รู้จักในชื่อ "เสี่ยพัด" สมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนและไทยเกาะกง ทั้งยังเป็นเจ้าของ LYP Group บริษัทขนาดใหญ่ที่ครอบครองพื้นที่นับหมื่นไร่ในเกาะกง ซึ่งเป็นอาณาจักรทางธุรกิจภายใต้กลุ่มลี ซอ

 

ประกอบด้วยบ่อนกาสิโน โรงแรม นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์ผลไม้ อาคารพาณิชย์ให้เช่า ถนนส่วนบุคคล และสะพานข้ามแม่น้ำ

 

สิ่งที่น่าจับตาคือความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง "เสี่ยพัด" กับผู้นำระดับสูงของกัมพูชา

 

รายงานวิจัยระบุว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน มีบทบาทสำคัญในการออกนโยบายอนุญาตให้เปิดบ่อนกาสิโน และถูกมองว่าเป็น "ลูกพี่" ของ "เสี่ยพัด" ซึ่งทำหน้าที่เสมือน "กระเป๋าเงิน"

 

ความสัมพันธ์นี้เกิดจากการที่ "เสี่ยพัด" สนับสนุนสมเด็จฯ ฮุน เซน ในการแข่งขันทางการเมืองที่จังหวัดเกาะกง จนได้รับชัยชนะ และได้รับการแต่งตั้งเป็น "ออกญา ลี ยงพัด" ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดของกัมพูชา

 

 

แผนที่อำนาจ กาสิโนชายแดนไทย-กัมพูชา

 

ปัจจุบันกัมพูชามีกาสิโนกว่า 150 แห่ง ซึ่งมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่บริเวณชายแดนติดกับประเทศไทย

 

และแหล่งใหญ่ที่สุดคือ ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยคาดการณ์ว่านักพนันกว่า 80% เป็นชาวไทย กาสิโนสำคัญในปอยเปต ได้แก่:

 

 

• Grand Diamond City: มีนายวัฒนา อัศวเหม อดีตนักการเมืองชื่อดังเป็นเจ้าของ โดยเข้าซื้อกิจการในปี 2544 ด้วยมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท และเคยประกาศขายในปี 2564 ด้วยราคา 1.2 หมื่นล้านบาท

 

• Holiday Poipet: เป็นการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจอินโดนีเซีย จีนมาเก๊า และไทย

 

• Star Vegas & Club: ของนักธุรกิจน้ำมัน ร่วมทุนกับชาวไต้หวันและน้องชายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา

 

พื้นที่ร้อนอื่นๆ ได้แก่ เกาะกง ไพลิน และช่องจอม รวมถึงบ่อนกาสิโนใหม่ที่ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากประเทศจีน มูลค่าลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท

 

 

"ใครเป็นใคร" ในอาณาจักรกาสิโนชายแดน?

 

การถือครองบ่อนกาสิโนชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อน มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง:

 

• กลุ่มนักการเมืองไทย: นำโดย นายวัฒนา อัศวเหม อดีต ส.ส. สมุทรปราการ ฉายา "เจ้าพ่อปากน้ำ" เจ้าของ Grand Diamond City และ Poipet Resort ซึ่งปัจจุบันมีคดีติดตัว รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นสระแก้วที่ร่วมทุนใน Holiday Poipet

 

• กลุ่มทหารและข้าราชการกัมพูชา: มีน้องชายอดีตรัฐมนตรีกัมพูชาร่วมทุนใน Star Vegas & Club และ "ออกญาลึม เฮง" นักธุรกิจใหญ่กัมพูชา เจ้าของบ่อนสายตะกู ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสมเด็จฯ ฮุน เซน และร่วมทุนกับนักธุรกิจสิงคโปร์ เจ้าของ Royal Hill

 

• กลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ: ได้แก่ "นายโทนี่" นักธุรกิจอินโดนีเซีย เจ้าของ Holiday Palace และ Holiday Poipet, Chen Lip Keong นักธุรกิจมาเลเซีย เจ้าของ Naga World, นักธุรกิจจีนมาเก๊า และกลุ่มทุนไต้หวันที่ร่วมลงทุนใน Star Vegas

 

• กลุ่มนักธุรกิจไทย: นำโดย "เสี่ยสมบูรณ์" อดีตเจ้าของ Star Vegas และ Star King นักธุรกิจน้ำมันคอสโมออยส์ และนักธุรกิจท้องถิ่นสระแก้ว

 

 

กลไกแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในธุรกิจสีเทา

 

รูปแบบการลงทุนในบ่อนกาสิโนชายแดนมีลักษณะพิเศษ โดยผู้มีอิทธิพลของฝ่ายกัมพูชามักเข้ามา "ถือหุ้นลม" โดยอาศัยการเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

 

ตัวอย่างเช่น นายสมพร อดีตผู้นำเขมรแดงและอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ที่เปิดให้นักลงทุนไทยเข้ามาเปิดบ่อนกาสิโนในไพลิน โดยขอร่วมลงทุนด้วยการเป็น "หุ้นลม" ซึ่งบ่อนหลายแห่งในไพลินมีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนของเขา

 

เช่น บ่อนไพลิน, บ่อนมงกุฎเพชร, บ่อนดรีมเวิร์ล และ บ่อนเค.อาร์. วิกตอเรีย กาสิโน และที่น่าสนใจคือ การดำเนินธุรกิจเหล่านี้ต้องเสียค่าสัมปทานซ้ำซ้อนทั้งต่อรัฐบาลกลางและระดับท้องถิ่น

 

นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ "กก อาน" เศรษฐีชาวกัมพูชาและที่ปรึกษาของสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่เคยเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างกาสิโนปรินเซสคราวน์ในปอยเปตที่ละเมิดข้อตกลงเขตแดน จนถูกประท้วงจากทางการไทยและเทศบาลปอยเปต

 

การดำเนินธุรกิจบ่อนกาสิโนตามแนวชายแดนนั้นไม่ง่าย ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ เช่น เวลาเปิด-ปิดด่าน การเดินทาง การตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และการนำเงินข้ามประเทศ

 

ที่สำคัญ บ่อนกาสิโนยังเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำไทยที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยมีการสมคบคิดระหว่างชนชั้นนำที่จะฟอกเงินกับเจ้าของบ่อนกาสิโนซึ่งมักเป็นลูกค้าระดับ VIP

 

ผลกระทบข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จุดเปลี่ยน "อาณาจักรกาสิโน"

 

การลดเวลาเปิด-ปิดด่านถาวรและจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทชายแดนและการปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี

 

ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจกาสิโนชายแดน โดยเฉพาะมาตรการที่จุดผ่านแดนอรัญประเทศ - ปอยเปต ที่ปรับเวลาเปิด-ปิดเป็น 08.00-16.00 น. และมีข้อกำหนดชัดเจนว่า "ชาวไทยที่ไปเล่นพนันและท่องเที่ยว ห้ามออกนอกประเทศ"

 

มาตรการนี้อาจเป็นการตอกย้ำความพยายามในการควบคุมการพนันและปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน

 

แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างอำนาจรัฐ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเครือข่ายอิทธิพลที่เชื่อมโยงกันระหว่างสองประเทศ

 

เหตุการณ์ความตึงเครียดครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายการพนันและการควบคุมชายแดน

 

รวมถึงเปิดโปงเครือข่ายผลประโยชน์มหาศาลที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังบ่อนกาสิโนชายแดนที่สร้างรายได้มหาศาลและมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลทั้งในไทยและกัมพูชามายาวนาน