posttoday

“ไปต่อ ไม่ใช่เพื่อรอด แต่เพื่อรุก”

05 กรกฎาคม 2568

วันนี้ บ้านเมืองอาจจะดูคล้ายเรือที่โคลงเคลงกลางคลื่น สองปีแห่งการบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญปี 60 คือกติกา

“ไปต่อ ไม่ใช่เพื่อรอด แต่เพื่อรุก”

 

หนึ่งนายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอน
อีกหนึ่ง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

แต่ประเทศไทยยังไม่ล่ม
เพราะหัวใจของระบอบประชาธิปไตย ยังเต้นอยู่

เต้นอยู่กลางความสับสน เต้นอยู่ใต้แรงดันของอารมณ์ เต้นอยู่เหนือคำครหา

หลายคนเริ่มหมดหวัง

บางคนเริ่มหมดศรัทธา
ฝั่งตรงข้าม ยิ้มเย้ย
กองเชียร์ เริ่มเครียดแค้น

แต่สำหรับผม ไม่มีเวลามานั่งถอนหายใจ

ผมเห็นสิ่งที่ “คนสิ้นหวัง” มองไม่เห็น

จากประสบการณ์ สังเกต เห็นว่าเรา “ไทย” นี่คือการเดินหน้าแบบประชาธิปไตย ด้วยกรอบกติกา องค์กรตาม รัฐธรรมนูญปี 60 ที่แท้จริง

ไม่ใช่การแกล้งเรียบร้อย
ไม่ใช่การแกล้งมั่นคง

แต่คือ “การเปิดหน้าเผชิญความจริง” แล้วแก้ด้วยระบบ ไม่ใช่ด้วยอารมณ์

ในโลกเสรีประชาธิปไตย
ความมั่นคงของระบอบ คือหลัก 

ไม่ใช่การเงียบ แต่คือการยืนอยู่ได้ แม้จะโต้ลมแรง
วันนี้เรายืนอยู่ และที่สำคัญ เรายืนอยู่ในระบบ

และนั่น คือสัญญาณอันชัดเจน
ที่ส่งตรงไปยังสายตาของนานาชาติ ว่า

“ประเทศไทยไม่ใช่ระบอบที่เปลี่ยนขั้วด้วยกระสุน แต่เปลี่ยนผู้นำด้วยกติกา กระบวนการ”

ขอเพียงอยู่ในระบบ

ศรัทธาจะกลับมา ความเชื่อมั่นจะกลับคืน

และเมื่อศรัทธากลับคืนเศรษฐกิจจะเดิน คนจะลุก และประเทศจะไปต่อ

วันนี้ รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
แม้นายกฯ ต้องหยุดชั่วคราว
แต่ “เครื่องจักร” ไม่ได้ดับ

มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็นหัวเครื่อง
นักการเมืองที่ผ่านศึกจริง ไม่ใช่แค่ผ่านสื่อ

นิ่งแต่แน่น สุขุมแต่ไม่เฉื่อย
หนักแน่น แต่ไม่แข็งกระด้าง

รัฐบาล พรรคเพื่อไทย ไม่ตอบโต้ด้วยวาทกรรม

ไม่ห้ำหั่นด้วยเสียงโวยวาย

แต่วางหมากด้วยนโยบาย และเดินเกมด้วย“ทีม”เป้าหมาย คือประชาชน

พูดให้ชัด
วันนี้ รัฐบาลเพื่อไทย ไม่ได้ทำสงครามกับกัมพูชา
แต่กำลังทำ “สงครามกับปัญหาปากท้อง”
และต่อสู้กับ “ความเฉื่อยชาเชิงโครงสร้าง” ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ

นี่คือสงครามที่ควรเกิด
และนี่คือสงครามที่ “ประชาชนอยากเห็นชัยชนะ”

อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากกระแส

อย่าเพิ่งท้อเพราะคำพูด

สิ่งที่เรากำลังทำวันนี้ คือการพิสูจน์ว่า

รัฐบาลที่มีหลายพรรค ยังเดินหน้าได้ หากขับเคลื่อนด้วย “ระบบ ทีม และนโยบาย เป้าหมายคือชาติ” ไม่ใช่แค่ตัวบุคคล

ประเทศไทยยังมีเวลาอีกไม่เกิน 2 ปี
หลังจากนั้น เราประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ด้วยหัวใจและปลายปากกา ว่าใครควรได้ไปต่อ ใครควรถอยไปนั่งดู

แต่วันนี้ เรายังมีรัฐบาล
เรายังมีพรรคที่ไม่หนีหน้า 

เรายังมีกองหนุนคือประชาชน

เรายังมีหลังพิงคือกองทัพ
และเหนือสิ่งอื่นใด เรายังมี “ศรัทธาที่ฟื้นได้ หากเรากล้ายืน”

ในพายุ ผู้นำที่แท้ ยืนไม่ใช่เพื่อรอด

แต่ยืนเพื่อรุก

ยืนเพื่อทำให้คนทั้งประเทศเห็นว่า 
ประชาธิปไตยไทย ไปได้ ในยุคนี้ 

ประเทศนี้ ยังไปต่อได้
ขอเพียงไม่ถอดใจ!

ข่าวล่าสุด

เปิดภาพไซเบอร์ บุกค้นบ้านหรูหาหลักฐานจับ 'ก๊กอาน' คนสนิท ฮุน เซน