posttoday

สหรัฐฯ เรียกร้องไทยปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ หลังสินค้าละเมิดขายเกลื่อนโลกออนไลน์

01 พฤษภาคม 2567

สหรัฐฯ เข้มต่อเนื่อง! คงสถานะไทยกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา จากปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์วางขายเกลื่อนบนแพลตฟอร์มออนไลน์

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เผยแพร่รายงานผลการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 301 พิเศษ กฎหมายการค้าสหรัฐฯ ประจำปี 67 โดยในรายงานระบุว่า แม้ไทยได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ เพื่อเข้าเป็นสมาชิกสนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WPPT), แก้กฎหมายสิทธิบัตร เพื่อปรับปรุงกระบวนการจดทะเบียนให้รวดเร็ว แก้ปัญหาการตรวจสอบคำขอจดทะเบียนที่คั่งค้างสะสมจำนวนมาก และเพื่อเข้าเป็นสมาชิกสนธิสัญญากรุงเฮก, หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับเจ้าของสิทธิ์ในการป้องกัน และปราบปรามการละเมิดอย่างเต็มที่

แต่ยังมีสินค้าละเมิดวางขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางออนไลน์ ซึ่งหน่วยงานของไทยมุ่งปราบผู้ค้ารายย่อยมากกว่าจะมุ่งปราบผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ รวมถึงกังวลอาจไม่มีการดำเนินคดีทางอาญา อีกทั้งแม้ไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ในการปราบปรามการขายสินค้าละเมิดทางออนไลน์ แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ และแอปพลิเคชันที่สามารถสตรีม หรือดาวน์โหลดเนื้อหาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต

สหรัฐฯ ยังได้เรียกร้องให้ไทยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพิ่มเติม เพราะสหรัฐฯ รัฐบาลต่างประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ยังมีข้อกังวล และยังมีอุปสรรคในขั้นตอนการบังคับใช้การป้องกันการแอบถ่ายหนังโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเร่งแก้ปัญหาการพิจารณาคำขอจดสิทธิบัตรที่ยังคั่งค้างจำนวนมาก

ขณะที่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สหรัฐฯเรียกร้องให้ไทยดำเนินการอย่างโปร่งใส และมีกระบวนการที่เหมาะสมในการคุ้มครอง

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีข้อกังวลด้านอื่นเพิ่มเติม อาทิ ภาคเอกชนของไทยยังคงใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ, การดำเนินคดีทางแพ่งมีความยืดเยื้อ และความเสียหายทางแพ่งอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงเรียกร้องให้ไทยมีระบบปกป้องที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยไม่เป็นธรรม การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเปิดเผยผลการทดสอบ หรือข้อมูลทั่วไปเพื่อการเข้าสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์ยา และเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร      

 

ทั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ไทย ยังคงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (Watch List : WL) ตั้งแต่ปี 60 แม้จะมีการพัฒนาด้านการป้องกัน คุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และบังคับใช้กฎหมายจริงจังขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ของไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไทยจะหลุดออกจากบัญชีดังกล่าว เพราะมีพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่ดีขึ้นมาก โดยได้ดำเนินการต่างๆ ตามที่สหรัฐฯเรียกร้อง นำมาซึ่งความพอใจของเจ้าของสิทธิ์ แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากการจัดสถานะด้านทรัพย์สินทางปัญญาได้

สำหรับกลุ่ม WL ปีนี้ มี 20 ประเทศ คือ อัลจีเรีย, บาร์บาโดส, เบลารุส, โบลิเวีย, บราซิล, บัลแกเรีย, แคนาดา, โคลอมเบีย, เกวาดอร์, อียิปต์, กัวเตมาลา, เม็กซิโก, ปากีสถาน, ปารากวัย, เปรู, ไทย, ทรินิแดด แอนด์ โทบาโก, เตอร์เกีย, เติร์กเมนิสถาน และเวียดนาม