ปรับยูโร5ป่วนราคารถเพิ่ม

อีซูซุ ชี้หากปรับมาตรฐานใช้ยูโร 5 จะส่งผลต้นทุนพัฒนาสูง ทำให้ราคารถยนต์ขยับตาม ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนและเชื้อเพลิงก็ยังไม่พร้อม

นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดเผยว่า หากมีการปรับมาตรฐานการปล่อยไอเสียของยานพาหนะและมาตรฐานเชื้อเพลิงเป็นยูโร 5 จะส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สูงขึ้น และอาจจะส่งผลต่อราคารถยนต์ที่สูงขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลประกาศปรับมาตรฐานชัดเจนในฐานะผู้ผลิตก็ต้องปฏิบัติตาม

ทั้งนี้ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่ในมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งประเด็นดังกล่าวในการปรับมาตรฐานสู่ยูโร 5 ยังเป็นเพียงแค่การพูดคุย ซึ่งยังไม่มีกฎระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจน ดังนั้นจึงอาจจะยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้

"ต้นทุนและราคาขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่รัฐให้ผู้ผลิตเตรียมตัว เพราะไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็สามารถทำได้ ต้องมีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่สามารถผลิตตามมาตรฐานยูโร 5 ได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนน้อย ดังนั้นหากไม่สามารถหาชิ้นส่วนมาได้เพียงพออาจต้องนำเข้าชิ้นส่วนมาเพื่อผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งต้นทุนก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของชิ้นส่วนดังกล่าวว่าจะมาจากแหล่งใด" นายมาเอคาวะ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้ผลิตรถยนต์แล้ว ในด้านคุณภาพน้ำมันของประเทศไทยจะต้องได้มาตรฐานยูโร 5 ด้วย ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมหลายด้านเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมนี้ อาทิ ควบคุมโรงกลั่นน้ำมันตามมาตรฐานดังกล่าว

นายมาเอคาวะ กล่าวว่า ปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารักษายอดขายเท่ากับปีก่อนราว 1.77 แสนคัน โดยมองว่าปัจจัยภาพรวมตลาดในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย หรือเทียบเท่ากันรวม 1.04 ล้านคัน ซึ่งปัจจัยในปีนี้ทั้งการเมืองและการลงทุนมีความชัดเจน รวมถึงในด้านการดึงดูดนักลงทุนที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน สงครามการค้าจีน-สหรัฐ รวมถึงสถานการณ์ในยุโรปเป็นประเด็นที่ต้องจับตา โดยบริษัทตั้งเป้าส่งออกโตสวนสถานการณ์ ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทส่งออก 1.6 แสนคัน และปีนี้คาดจะเป็น 1.7 แสนคัน เนื่องจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มดี อีกทั้ง ปีนี้บริษัทมีแผนส่งออกรถบรรทุกเป็นครั้งแรกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน