Si Data+ และ RISA สู่การใช้ AI Typhoon ในศิริราชและภาคการศึกษา
Typhoon AI ถูกใช้งานจริงในโรงพยาบาลศิริราชและ 300 โรงเรียนทั่วประเทศ ทั้งช่วยค้นข้อมูลทางแพทย์และตรวจข้อสอบอัตนัยอย่างแม่นยำ พร้อมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้
KEY
POINTS
- โรงพยาบาลศิริราชนำ AI Typhoon มาพัฒนา "Si Data+ Chatbot" เพื่อเป็นผู้ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
- ภาคการศึกษาร่วมมือพัฒนา "RISA" ผู้ช่วย AI ที่ใช้ Typhoon ในการช่วยติวสอบ PISA โดยสามารถตรวจข้อสอบอัตนัยและให้คำแนะนำแก่นักเรียนเป็นรายบุคคล
- ทั้งสองโครงการเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่แสดงศักยภาพของ AI Typhoon ซึ่งมีความสามารถด้านภาษาไทยสูง ในการนำไปประยุกต์ใช้จริงในองค์กรเฉพาะทางอย่างการแพทย์และการศึกษา
เราพูดกันไปบ้างแล้วว่า Typhoon โมเดล AI ฝีมือคนไทย ภายใต้การพัฒนาของสตาร์ทอัพอย่าง SCB 10X มีขีดความสามารถทางภาษาไทยที่สูงมาก ทั้งการแปลภาษา อ่านอักษรในภาพ หรือเนื้อหาในไฟล์เสียงอย่างแม่นยำ แต่หลายท่านอาจยังไม่แน่ใจหรือเชื่อถือจนอยากเปลี่ยนใจจากโมเดลตัวถนัดหันมาใช้งานมากนัก
วันนี้จึงขอหยิบยกกรณีตัวอย่างจากผู้ใช้งานจริง ที่เลือก Typhoon มาใช้งานภายในองค์กรดูบ้าง
Si Data+ Chatbot ผู้ช่วยในฐานข้อมูลการแพทย์ของศิริราช
โดยพื้นฐาน Si Data+ หรือ ศูนย์นวัตกรรมข้อมูลศิริราช เป็นศูนย์ข้อมูลกลางที่ถูกดูแลโดย คณะแพทย์สิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทำหน้าที่จัดสรร ดูแล และรวบรวมข้อมูลที่คอยให้บริการเจ้าหน้าที่ภายในเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พร้อมควบคุมดูแลการใช้งานให้เป็นไปตามธรรมาภิบาลข้อมูล
อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงกลับค่อนข้างเป็นเรื่องยาก แต่ละวันมีการสอบถามรายละเอียดข้อมูลปริมาณมหาศาลจนไม่สามารถดูแลจัดการทัน โดยเฉพาะการตอบคำถามที่มีรายละเอียดซ้ำๆ ให้แก่แพทย์ เจ้าหน้าที่ หรือนักวิจัยที่มาขอคำปรึกษา ส่งผลให้การตอบคำถามล่าช้าทั้งยังสร้างภาระงานให้แก่ทีมงาน
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงพัฒนา Si Data+ Chatbot โดยอาศัย Typhoon LLM เพื่อให้โมเดล AI เรียนรู้ทำความเข้าใจเนื้อหาจากผู้ใช้งานในภาษาธรรมชาติ แล้วเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี Retrieval-Augmented Generation(RAG) ฐานข้อมูลของทาง Si Data+ เพื่อให้สามารถตอบคำถามเชิงลึกอย่างแม่นยำ
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ทางหน่วยงานเลือกใช้ Typhoon คือ คุณสมบัติในการทำความเข้าใจภาษาไทยที่สูงมาก รองรับการอ่านเอกสารราชการ มีความเข้าใจศัพท์เชิงวิชาการ ค้นหาข้อมูลแม่นยำพร้อมแหล่งอ้างอิง ทั้งยังเป็นโมเดลที่ทำงานและประมวลผลในเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว จึงแน่ใจได้ในความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของข้อมูล
นั่นทำให้ Si Data+ Chatbot เป็น AI ที่ช่วยค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเข้าถึงรายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกได้ไม่ต่างจากคนจริง ลดภาระการตอบคำถามหาข้อมูลของเจ้าหน้าที่ และเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพการรักษาต่อไปในอนาคต
ปัจจุบัน Si Data+ Chatbot เปิดให้ใช้งานในโรงพยาบาลศิริราชแล้ว พร้อมผลตอบรับเชิงบวกจากผู้ใช้งาน
RISA แชทบอทติวสอบที่พร้อมพลิกโฉมการศึกษาไทย
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง SCB 10X กับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ในการพัฒนา RISA ผู้ช่วย AI สำหรับช่วยสนับสนุนเชิงวิชาการแก่นักเรียน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการทดสอบ PISA Reading Comprehension ที่ประเมินความรู้ด้านการอ่านของนักเรียนระดับอายุ 15 ปีโดยเฉพาะ
โดยพื้นฐานการศึกษาไทยประสบปัญหาในหลายด้าน ทั้งครูที่มีภาระงานหลายด้านและลูกศิษย์ในการดูแลมากจนไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่รายบุคคล ส่งผลให้นักเรียนไม่ได้รับการดูแลชี้แนะเชิงวิชาการมากพอ จนยากต่อการนำความรู้ที่มีไปเรียนรู้ทำความเข้าใจด้วยตัวเอง จนกลายเป็นช่องว่างทางวิชาการไปในที่สุด
นี่เป็นเหตุผลในการพัฒนา RISA ผู้ช่วย AI ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญสองด้าน อย่างแรกคือการช่วยตรวจข้อสอบอัตนัยโดยอัตโนมัติ อาศัยคำตอบที่อ้างอิงไว้เป็นเกณฑ์ตั้งต้นแล้วจึงตรวจเนื้อหาที่ถูกเขียนส่งมาโดยอัตโนมัติ พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่ตอบมาของนักเรียนแต่ละคน
หลังตรวจคำตอบเสร็จตัวโมเดลยังสามารถอธิบายแนวคิด ข้อผิดพลาดที่เกิด และแนวทางการแก้ไขเป็นภาษาไทยแก่นักเรียน เพื่อให้สามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจจากข้อผิดพลาด สามารถให้คำอธิบายที่เหมาะสมต่อระดับความรู้ความเข้าใจ และปรับโทนภาษาของคำอธิบายที่ได้ตามความต้องการไปพร้อมกัน
AI Chatbot นี้มีรากฐานมาจาก Typhoon OCR, Typhoon2 และ Typhoon 2.1 เพื่อใช้ทั้งในส่วนของการทำความมเข้าใจเนื้อหาที่ถูกเขียนบทกระดาษคำตอบ สามารถทำความเข้าใจภาษาไทยอย่างละเอียดลึกซึ้งจากการที่พัฒนาจากฐานข้อมูลภาษาไทยโดยตรง ทำให้สามารถอธิบายภาษาไทยได้อย่างมีโครงสร้าง มิติ และเข้าใจวัฒนธรรมอย่างถูกต้อง
ในขั้นตอนการทดสอบพบว่า นักเรียนที่เข้าใจใช้งาน RISA กว่า 56% มีคะแนนสอบดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการสอบครั้งถัดมา ทางฝั่งครูผู้สอนก็สามารถประหยัดเวลาจากการตรวจข้อสอบไปได้ถึง 5 ชั่วโมง ด้วยระดับความแม่นยำเมื่อเทียบกับการตรวจจากมนุษย์กว่า 90% พร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยคัดกรองเนื้อหาไม่เหมาะสมต่อนักเรียนให้เหลือน้อยกว่า 1%
นี่จึงเป็นโมเดลที่ช่วยแบ่งเบาภาระงานของครู และเพิ่มประสิทธิภาพสร้างโอก่าสการเรียนรู้ของนักเรียนไปพร้อมกัน
จริงอยู่โมเดลทั้งสองตัวอยู่ในขอบเขตการใช้งานในวงจำกัด แต่ก็ถือว่าเป็นรากฐานและแม่แบบสำคัญต่อการพัฒนาระบบ AI ผู้ช่วย โดยเฉพาะ RISA ที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบในระยะแรกที่มีผู้เข้าร่วม 100 คน และเฟสถัดมาที่มีผู้เข้าร่วม 9,700 จาก 300 โรงเรียน 74 จังหวัดทั่วโลก และเตรียมขยายการใช้งานสู่ระดับ 100,000 คนต่อไป
ที่มา
https://opentyphoon.ai/blog/th/use-case-siriraj-sidataplus-admin-chatbot
https://opentyphoon.ai/blog/th/use-case-risa
https://www.edupdate.net/2025/59947/


