Green AI ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยั่งยืนใน Delta Summit 2025
งาน Delta Future Industry Summit 2025 ชูเทคโนโลยี Green AI และระบบอัตโนมัติสีเขียว ยกระดับประสิทธิภาพพลังงานและการผลิตอัจฉริยะของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในยุคที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ระบบอัตโนมัติและพลังงานสะอาด งาน Delta Future Industry Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญที่สะท้อนทิศทางของเทคโนโลยี AI สีเขียว (Green AI) และระบบการผลิตอัจฉริยะที่มุ่งสู่ความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายในงานมีการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้บริหารระดับอุตสาหกรรมและหน่วยงานรัฐ ซึ่งเห็นพ้องกันว่า เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติสีเขียว จะเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจในทศวรรษหน้า โดยเฉพาะเมื่อภาคการผลิตและพลังงานต้องเผชิญกับความท้าทายจากการใช้พลังงานสูงและความไม่แน่นอนของโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Resilience)
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงแนวโน้มดังกล่าวว่า การพัฒนาเทคโนโลยี AI ควบคู่กับระบบพลังงานสะอาดเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับบุคลากรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลเต็มรูปแบบ
งานนี้ชูประเด็น Green AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่คำนึงถึงประสิทธิภาพพลังงานของระบบ AI เอง ซึ่งข้อมูลจาก Economist Impact ระบุว่า 78% ขององค์กรทั่วโลกมองว่า การออกแบบระบบ AI ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงโครงข่ายพลังงานแบบ grid-to-chip ที่ช่วยให้ระบบ AI เชื่อมต่อและบริหารจัดการพลังงานได้อย่างอัจฉริยะ ตั้งแต่ระดับโรงงานไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์
หนึ่งในแนวคิดที่ถูกพูดถึงมากคือ การบูรณาการพลังงานและข้อมูล ผ่านระบบไฟฟ้าแบบ DC และโครงสร้างดิจิทัลอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ระบบควบคุมภายในโรงงานและอาคารสามารถจัดการพลังงานได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานโดยรวม ขณะเดียวกันยังช่วยให้ภาคการผลิตมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเกิดความผันผวนของพลังงานในโครงข่าย
ในส่วนของการใช้งานจริง ตัวอย่างจากความร่วมมือระหว่าง Delta Electronics และ AWS แสดงให้เห็นว่า AI ถูกนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารและดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยเทคนิค Machine Learning และ Generative AI เพื่อคาดการณ์ความต้องการพลังงานและบริหารโหลดแบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นรากฐานสำคัญของ ระบบอัตโนมัติสีเขียว ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการผลิต
ภายในงานยังมีการเสวนาเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาโรงงานอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติพลังงานสะอาด โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายบริษัท เช่น Bosch Connected Services, Natsume Digital Technology และ Delta Electronics ได้เสนอวิธีการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติและพลังงานหมุนเวียนเพื่อยกระดับการผลิตในอุตสาหกรรมจริง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลจาก IoT และระบบควบคุมการผลิตเพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดต้นทุนพลังงาน
นอกจากนี้ เดลต้ายังจัดแสดงเทคโนโลยีหลัก 4 ด้านที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรม ได้แก่
1.Datacenter Solutions – ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI และคลาวด์
2.Industrial Automation Solutions – ระบบควบคุมการผลิตอัตโนมัติที่ลดการใช้พลังงานและเพิ่มความแม่นยำ
3.Smart Energy & EV Charging Solutions – ระบบพลังงานอัจฉริยะและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
4.Building Automation Solutions – ระบบอาคารอัตโนมัติที่จัดการพลังงานและอุณหภูมิได้อย่างชาญฉลาด
ทิศทางที่เห็นได้จากงานนี้คือ การพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ทำงานร่วมกับระบบพลังงานสะอาดและอัตโนมัติในทุกระดับ ตั้งแต่เครื่องจักรในโรงงานไปจนถึงระบบบริหารจัดการอาคารและดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุค “Green Automation” อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการยกระดับสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในอนาคต


