posttoday

SEO กำลังจะตาย? เมื่อ AI ทำลายโมเดลธุรกิจเว็บไซต์แบบเดิม

03 กรกฎาคม 2568

การมาถึงของ AI กำลังเปลี่ยนรูปแบบการค้นหา ส่งผลกระทบธุรกิจเว็บไซต์-SEO อย่างหนัก จนต้องเร่งปรับตัวสู่โมเดลใหม่ในยุคที่รายได้จากโฆษณากำลังจะหายไป

AI ถือเป็นเทคโนโลยีที่ขยับเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดแม้แต่เซิร์จเอ็นจิ้นยังได้รับผลกระทบเมื่อผู้ใช้งานหันไปสอบถามผ่าน AI Chatbot ส่งผลให้ Google ต้องเปิดตัว AI Overview สำหรับช่วยสรุปข้อมูลการค้นหาสั้นๆ เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก

 

แต่หลายภาคส่วนกลับมองว่าทิศทางนี้อาจทำลายโมเดลธุรกิจเว็บไซต์และ SEO แบบเดิมโดยสิ้นเชิง

 

SEO กำลังจะตาย? เมื่อ AI ทำลายโมเดลธุรกิจเว็บไซต์แบบเดิม

 

AI Overview และการสรุปคำตอบด้วย AI

 

ก่อนอื่นเราคงต้องมาพูดถึงต้นตอปัญหากันเสียหน่อย AI Overview และการใช้ AI ค้นหาคำตอบในปัจจุบันมีกระบวนการต่างจากการค้นหาแบบเก่า เดิมทีเราต้องค้นหาคีย์เวิร์ดและเข้าไปอ่านเนื้อหาในแต่ละเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบข้อมูลเอง แต่ AI Overview จะประมวลผลเนื้อหาจากผลการค้นหาแล้วสรุปออกมาให้ผู้ใช้งานสั้นๆ

 

แน่นอนสิ่งนี้เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก จากเดิมที่ต้องไปนั่งมองหาเว็บไซต์น่าเชื่อถือเอง AI จะเข้ามาจัดการตรงนี้ให้ทั้งหมด สรุปเนื้อหาแบบย่อให้เข้าใจง่ายแล้วทำการแสดงผล พร้อมแนบลิงค์อ้างอิงในกรณีที่อยากทราบรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม

 

นอกจากสามารถสรุปเนื้อหาให้ออกมาพร้อมใช้งานในเวลาอันรวดเร็ว โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องไปไล่อ่านหรือเสียเวลาในการค้นคว้าเองแล้ว ล่าสุด Google ยังเพิ่มระบบ Audio Overview ที่เปลี่ยนเนื้อหาซึ่งสรุปออกมาให้เป็นรูปแบบไฟล์เสียงสำหรับการฟัง ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้บกพร่องทางการมองเห็น

 

อย่างไรก็ตามเว็บไซต์และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านออกมาให้เห็นตรงกันว่า สิ่งนี้กำลังทำลายโมเดลธุรกิจ SEO และเว็บไซต์แบบเดิม

 

SEO กำลังจะตาย? เมื่อ AI ทำลายโมเดลธุรกิจเว็บไซต์แบบเดิม

 

ปัญหาจากความสะดวกที่มากเกินไป

 

Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกให้ความเห็นว่า การใช้ AI ค้นหาและสรุปข้อมูลกำลังก่อให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจเว็บไซต์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะการสรุปเนื้อหาจากการถามโดยอัตโนมัติที่อาจพลิกโฉมโลกอินเทอร์เน็ตไปโดยสิ้นเชิง

 

สาเหตุมาจากการเข้าถึงและสรุปเนื้อหาของ Google เดิม เป็นการนำรายชื่อเว็บไซต์ตรงตามรายละเอียดที่ต้องการมานำเสนอแก่ผู้ใช้งาน เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเว็บไซต์ซึ่งมีข้อมูลที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น นำไปสู่การจัดทำเนื้อหา SEO และการดึงดูดทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์ผ่านเสิร์จเอ็นจิ้นซึ่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

 

แต่การค้นหาข้อมูลด้วย AI ทำลายตรงนี้ไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการโดยไม่ต้องเข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์อีกต่อไป AI จะดึงข้อมูลไปจากเว็บไซต์ทั้งหลายแล้วสรุปออกมาในรูปแบบของตัวเอง ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เหล่านั้นอีกต่อไป

 

ข้อมูลจากทาง Cloudflare เปิดเผยว่า AI ทำให้การเข้าถึงข้อมูลน้อยลงกว่าเดิม 3 เท่า เพราะคำตอบกว่า 75% ในการค้นหาสามารถมอบให้ผู้ใช้งานโดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ใดเพิ่มเติม สิ่งนี้สอดคล้องกับข้อมูลของเว็บไซต์ข่าวขนาดใหญ่ เช่น Washington Post, HuffPost และ Business Insider ที่มียอดผู้เข้าชมลดลงกว่า 50%

 

จริงอยู่กระบวนการนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่อาจทำให้ผู้ผลิตเนื้อหาอยู่ไม่ได้เพราะได้รับผลกระทบทางรายได้โดยตรง ในระยะยาวจึงอาจทำให้วงการ Content creator ถูกทำลาย จนอาจทำให้โลกอินเทอร์เน็ตขาดแหล่งข้อมูลที่มีความน่าสนใจไปเสียเอง

 

ซึ่งในระยะยาวสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ AI ด้วยเช่นกัน

 

 

แนวทางรับมือในปัจจุบัน

 

ผลกระทบในส่วนนี้เริ่มเกิดขึ้นจากความแพร่หลายในการใช้งาน AI เห็นได้ชัดจากเว็บไซต์หลายแห่งที่มียอดผู้เข้าชมลดลงอย่างมาก สิ่งนี้ส่งผลต่อการทำธุรกิจเว็บไซต์และ SEO โดยตรง เพราะไม่มีการเข้าสู่เว็บ ย่อมไม่ก่อให้เกิดรายได้ จนอาจต้องปิดตัวลง และปัญหานี้จะยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อ AI Overview เปิดใช้งานทั่วไป

 

แน่นอนว่าเริ่มมีผู้ตระหนักถึงปัญหานี้แล้วเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ OpenAI ที่ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์และเนื้อหาจากเว็บไซต์หลายแห่งโดยตรง ตั้งแต่ News Corp, Dotdash Meredith, Financial Times, Rueters ไปจน Reddit เช่นเดียวกับอีกหลายบริษัทที่ทำแบบเดียวกัน แม้เป้าหมายหลักของพวกเขาคือนำมาใช้เทรนโมเดล AI เป็นหลักก็ตาม

 

แต่เราทราบดีว่าเม็ดเงินจากบริษัท AI ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯย่อมไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงระบบนิเวศอินเทอร์เน็ตทั่วโลก อีกทั้งการดีลลิขสิทธิ์ทำได้เพียงในกลุ่มเว็บไซต์และบริษัทขนาดใหญ่เป็นหลัก ทำให้หลายบริษัทจำเป็นต้องค้นหาทางรอดหรือกาปรับตัวจากโมเดลธุรกิจต่อไป

 

แนวทางที่ได้รับการพูดถึงมากคือ ปรับรูปแบบจาก SEO ที่เน้นการดึงดูดเสิร์จเอ็นจิ้น มาเน้นการดึงดูดทราฟฟิกจากการค้นหาด้วย AI โดยอาจเริ่มจากการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องและน่าสนใจจากอัลกอริทึม AI มากขึ้น อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องยาก เพราะการดึงข้อมูลของ AI ไม่มีรูปแบบแน่นอนที่ถูกประกาศออกมาให้ชัดเจน

 

อันดับถัดมาเป็นสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ นี่จะเป็นส่วนสำคัญของบริษัทที่ต้องคงอัตลักษณ์และจุดเด่นที่ลูกค้าชื่นชอบเอาไว้ให้ได้ ซึ่งจะช่วยสร้างฐานลูกค้าที่เข้าถึงเว็บไซต์ของเราอย่างเหนียวแน่น หรือสร้างคอมมูนิตี้ขึ้นมารองรับซึ่งจะช่วยให้อยู่รอดในตลาดได้ง่ายขึ้น

 

อีกส่วนที่เริ่มมีการปรับตัวมากขึ้นแล้วเช่นกันคือ เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศที่เปลี่ยนเป็นระบบ Membership และ Subscription มากขึ้น อีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความนิยมนัก แม้จะทำให้ยอดการอ่านรวมลดลงแต่จะช่วยให้มีรายได้ที่แน่นอน และถูกมองเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วยเช่นกัน

 

ทั้งหมดเป็นเพียงแนวทางการปรับตัวเบื้องต้นที่ได้รับการพูดกัน ที่เหลือคงต้องรอดูต่อไปว่าธุรกิจเว็บไซต์จะพัฒนาไปในทิศทางใด

 

 

 

ที่มา

 

https://searchengineland.com/ai-killing-web-business-model-455157

 

https://techxplore.com/news/2025-06-ai-overviews-google-opt.html

 

https://www.wsj.com/tech/ai/google-ai-news-publishers-7e687141

 

ข่าวล่าสุด

ชายแดนเดือด! หุ้นไทยดิ่งหนักกว่า 12 จุด ขีดเส้น 1,250 จุดห้ามหลุด