posttoday

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

19 มิถุนายน 2568

Meta ทุ่มหมื่นล้านคว้าตัว "อเล็กซานเดอร์ หวัง" หัวกะทิ AI วัย 28 ปี! เขาคือใคร? ทำไมมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กถึงยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงตัวมาร่วมทีมหัวกระทิ AI

 

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แข่งกันดุเดือดสุดๆ ชื่อของ อเล็กซานเดอร์ หวัง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Scale AI ก็กลายเป็นที่จับจ้อง

 

เพราะเขาสามารถพาสตาร์ทอัพของตัวเองไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่จาก Meta (เจ้าของ Facebook, Instagram) สูงถึง 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 4.7 แสนล้านบาท!

 

แถมตัวหวังเองยังจะได้ไปนั่งเก้าอี้สำคัญในทีมพัฒนา AI สุดล้ำของ Meta โดยตรง ภายใต้การนำของซีอีโอ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

ดีลนี้ไม่ใช่แค่การซื้อบริษัท แต่ Meta กำลังคว้าตัว "คนที่รู้ทุกซอกทุกมุมในวงการ AI" มาไว้กับตัว

 

ด้วยวัยเพียง 28 ปี หวังมีมูลค่าทรัพย์สินส่วนตัวและสัดส่วนการถือหุ้นจากดีลนี้พุ่งทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.6 แสนล้านบาท!

 

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

 

จากรูมเมท สู่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน

 

หวังขึ้นชื่อเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับคนในวงการ AI จนถึงขนาดที่ แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI (ผู้สร้าง ChatGPT) ซึ่งเคยเป็นรูมเมทของเขา ถึงกับเคยแซวให้เพลาๆ เรื่องการเข้าสังคมลงบ้าง 

 

แต่โชคดีที่หวังไม่เชื่อคำแนะนำนั้น เพราะการรู้จักคนเยอะๆ นี่แหละที่ทำให้เขากลายเป็น "เพชรเม็ดงาม" ที่ Meta อยากได้มาครอบครอง

 

ช่วงหลายเดือนมานี้ หวังสนิทกับซักเคอร์เบิร์กมากขึ้น ทั้งคู่ใช้เวลาพูดคุยเรื่องอนาคตของ AI กันที่บ้านพักของซักเคอร์เบิร์กในทาโฮและพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งสร้างความประทับใจให้ซักเคอร์เบิร์กอย่างมาก 

 

นอกจากนี้ หวังยังสนิทกับอัลต์แมนด้วย ก่อนที่อัลต์แมนจะสร้าง OpenAI เขาก็เคยบริหาร Y Combinator ซึ่งเป็นเหมือนโรงเรียนปั้นสตาร์ทอัพชื่อดัง และ Scale AI ของหวังเองก็เคยเป็นศิษย์เก่า Y Combinator เมื่อปี 2016 แถมทั้งคู่ยังเคยอยู่บ้านเดียวกันช่วงโควิด-19 อีกด้วย

 

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

"คนวงใน" ตัวจริงเสียงจริง

 

เผินๆ การที่ Meta ดึงหวังเข้ามา อาจดูเหมือนกับการที่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ อย่าง Microsoft, Amazon หรือ Google เคยทำ คือทุ่มเงินมหาศาลจ้างนักวิจัย AI ระดับหัวกะทิ 

 

แต่หวังแตกต่างออกไป เพราะเขาไม่ใช่ทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยผู้เชี่ยวชาญ และไม่ใช่ซีอีโอของบริษัทที่สร้างโมเดล AI ดังๆ เขาเป็นแค่ "คนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดในวงการ AI"

 

บริษัท Scale AI ของหวังทำหน้าที่เหมือนเป็นเบื้องหลังสำคัญในการสร้าง AI นั่นคือการ "ระบุข้อมูล หรือการติดป้ายกำกับข้อมูล" (data labeling) ซึ่งเป็นกระบวนการในการระบุประเภทหรือป้ายกำกับให้กับข้อมูลดิบ

 

เพื่อให้ AI สามารถเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการฝึกฝนโมเดล machine-learning ให้มีประสิทธิภาพ

 

ซึ่งทั้ง Microsoft และ OpenAI ต่างเป็นลูกค้าของหวังทั้งสิ้น!

 

การที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กลงทุนใน Scale AI ทำให้เขากุมความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง AI รายใหญ่ๆ อย่าง OpenAI และ Google อย่างชัดเจน เพราะการลงทุนครั้งนี้บีบให้คู่แข่งต้องตัดสินใจว่าจะยังคงใช้บริการจาก Scale AI ต่อไปหรือไม่

 

หากคู่แข่งยังคงใช้บริการของ Scale AI เท่ากับว่าพวกเขากำลังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่ซักเคอร์เบิร์กถือหุ้นอยู่ถึง 49% (ผ่านการลงทุนในบริษัทที่ควบคุม Scale AI)

 

แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะหาทางเลือกอื่น ก็อาจทำให้การพัฒนาด้าน AI ของพวกเขาชะลอตัวลงได้

 

ทั้งนี้ ตามข้อมูลจาก Bloomberg มีรายงานข่าวว่า OpenAI ตั้งใจจะใช้บริการของ Scale AI ต่อไป ส่วน Google มีแผนที่จะยกเลิกบริการ 

 

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

เส้นสายกว้างขวาง และเติบโตแบบก้าวกระโดด

 

อเล็กซานเดอร์ หวัง ไม่ได้มีแค่เครือข่ายในวงการ AI เท่านั้น ตั้งแต่ร่วมก่อตั้ง Scale AI ตอนอายุ 19 ปี เขาก็ได้สานสัมพันธ์และเป็นเพื่อนกับผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Plaid, Figma หรือ Brex

 

นอกจากนี้ เขายังมีช่องทางเข้าถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลฝ่ายขวาและนักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกันในวอชิงตันได้อย่างง่ายดาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขามักจะเน้นย้ำถึงข้อกังวลเกี่ยวกับจีน ซึ่งส่งผลให้ Scale AI ได้รับสัญญาจากหน่วยงานภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

และในอนาคต ความสัมพันธ์เหล่านี้อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Meta ในการบุกเบิกเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศ

 

แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับ Bloomberg ว่าหวังติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ และเขารู้ว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรอยู่ หรืออยากจะทำอะไร "เขารู้จักทุกคน" ในโลก AI เลยก็ว่าได้

 

แม้แต่อัลต์แมนซึ่งเป็นคนมีเส้นสายไม่แพ้กัน ก็ยังเคยแซวหวังเมื่อปีที่แล้วเรื่องที่เขาชอบเข้าสังคมตลอดเวลาว่าเป็นสายปาร์ตี้ตัวยง! 

 

อัลต์แมนถึงกับทวีตแซวว่า “พูดจริงนะ ไม่มีใครไปปาร์ตี้บ่อยเท่าคุณอีกแล้ว ดูเหมือนเป็นงานประจำไปแล้วมั้งนั่น”

 

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

 

ส่องประวัติ อเล็กซานเดอร์ หวัง

 

หวังเกิดในปี 1997 พ่อแม่ผู้อพยพชาวจีนตั้งชื่อเขาว่า Alexandr โดยไม่มีตัว "e" ตัวสุดท้าย เพราะเชื่อว่าจะนำโชคดีจากการเป็นชื่อที่มีแปดตัวอักษร ซึ่งตามความเชื่อจีน เลข 8 สื่อถึงความร่ำรวยและรุ่งเรือง

 

พ่อแม่ของหวังเป็นนักฟิสิกส์ทั้งคู่ทำงานที่ห้องแล็บแห่งชาติลอสอะลามอสในรัฐนิวเม็กซิโก และหวังก็ได้รับความฉลาดจากพวกเขา

 

เขาชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็กๆ จนกลายเป็นนักคณิตศาสตร์ระดับประเทศ 

 

เขาเรียนจบมัธยมปลายเร็วกว่าปกติ และเข้าเรียนที่ Massachusetts Institute of Technology แต่ก็คันไม้คันมืออยากจะสร้างบริษัทของตัวเอง แม้ว่าพ่อแม่และพี่ชายทั้งสองคนจะมีปริญญาเอก

 

แต่เขาก็ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อย้ายไปซานฟรานซิสโก "ผมอยากทำอะไรให้มากขึ้น หรืออยากจะประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้เสมอ" เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Forbes

 

เจาะชีวิต "อเล็กซานเดอร์ หวัง" อัจฉริยะ AI วัย 28 ที่ Meta คว้าตัว

 

ส่องสัมพันธ์หวัง-ซักเคอร์เบิร์ก 

 

ในปีที่ผ่านมา หวังเริ่มแสดงท่าทีเข้าหาบุคคลและค่านิยมฝ่ายขวามากขึ้น

 

ในเดือนมิถุนายน 2024 เขาประกาศว่านโยบายการจ้างงานของ Scale AI จะยึดตาม "MEI" — "ความสามารถ ความเป็นเลิศ และสติปัญญา"

 

ซึ่งเป็นการโต้แย้งต่อนโยบายความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมกลุ่ม (DEI) ที่บริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่ใช้ และถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมหลายคน 

 

ในเดือนมกราคม หวังเข้าร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีทรัมป์ และเป็นเพื่อนกับอินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาอย่างพี่น้องพอล (Paul brothers) และ Nelk Boys 

 

หวังต้องการผลักดันให้มีการตระหนักถึงศักยภาพด้าน AI ของจีนอย่างจริงจังมากขึ้น เขากล่าวกับ Bloomberg ที่ดาวอสช่วงที่ผ่านมาว่า "ถ้าเราในฐานะชาวอเมริกันต้องการปกป้องวิถีชีวิต อุดมการณ์ และประชาธิปไตยของเราทั้งหมด สิ่งสำคัญคือเราต้องก้าวล้ำหน้า"

 

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Scale AI ได้ลงโฆษณาเต็มหน้าในหนังสือพิมพ์ Washington Post ด้วยข้อความที่ว่า "อเมริกาต้องชนะสงคราม AI"

 

นี่คือการส่งสัญญาณเตือนไปถึงรัฐบาลวอชิงตัน หลังจากที่สตาร์ทอัพ AI ของจีนอย่าง DeepSeek และบริษัทอื่น ๆ ได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากเรื่องนโยบายแล้ว ทั้งหวังและซักเคอร์เบิร์กยังเริ่มมีสไตล์ที่คล้ายกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคู่เริ่มไว้ ผมหยิกฟู และมักจะเลือกสวมใส่ ชุดแนวสตรีทแวร์ เมื่อไปออกรายการพอดคาสต์ฝั่งขวา

 

การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์นี้อาจเป็นความพยายามในการสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ หรือสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในมุมมองส่วนตัวของพวกเขา

 

ทั้งนี้ ซีอีโอทั้งสองมีจุดร่วมที่หาได้ยากยิ่ง นั่นคือต่างก็เป็นมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะด้วยตัวเองตั้งแต่อายุน้อย และในตอนนี้ หนึ่งในนั้นกำลังจะกลายเป็นเจ้านายของอีกคนแล้ว

 

ที่มา: Bloomberg

ข่าวล่าสุด

Liberator ชูวิสัยทัศน์ใหม่ ปลดล็อกศักยภาพนักลงทุนไทยสู่ปี 2026