posttoday

อีก 5 ปี! ยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

23 พฤษภาคม 2568

อีก 5 ปี! โลกเตรียมพบยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม ลดเวลา-ต้นทุน สร้างมาตรฐานใหม่วงการแพทย์

 

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับวงการแพทย์และเทคโนโลยี เมื่อสำนักข่าว bloomberg รายงานว่า Alex Zhavoronkov ซีอีโอของ Insilico Medicine สตาร์ทอัพผู้บุกเบิกการค้นคว้ายาด้วย AI

 

ได้ออกมาคาดการณ์ว่า "ยาที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างสมบูรณ์แบบ อาจพร้อมวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้"

 

หากเป็นไปตามที่ Zhavoronkov กล่าว นั่นหมายความว่าเราอาจได้เห็นยาที่เกิดจาก AI ออกสู่ตลาดจริงภายใน 5-6 ปีข้างหน้าเท่านั้น

 

ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมยาที่เคยพึ่งพากระบวนการวิจัยและพัฒนาอันยาวนานและมีต้นทุนมหาศาล

 

อีก 5 ปี! ยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

 

AI ตัวเร่งปฏิกิริยาแห่งวงการยา

 

อุตสาหกรรมยาต่างตระหนักถึงศักยภาพของ AI ในการ ลดระยะเวลาและต้นทุน การวิจัยและพัฒนามานานแล้ว 

 

แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการอนุมัติยาที่คิดค้นโดย AI ออกมาสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ 

 

ทว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนไป อย่างเช่น Takeda Pharmaceutical Co. ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายสำหรับยาโรคสะเก็ดเงินที่คัดเลือกโดย AI ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อมูลภายในปีนี้

 

Zhavoronkov ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง Insilico กับบริษัทส่วนใหญ่ที่ยังคงใช้ AI ในลักษณะแยกส่วน คือ Insilico ได้ผสานรวมเทคโนโลยี AI เข้าไปในทุกขั้นตอนของกระบวนการพัฒนายา

 

ตั้งแต่การตั้งสมมติฐานเป้าหมาย ไปจนถึงการปรับปรุงยาให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ยาที่พร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ได้ทันที นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้พวกเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

 

อีก 5 ปี! ยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

Insilico Medicine ผู้เล่นที่น่าจับตา

 

Insilico Medicine ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการนี้ บริษัทมีการดำเนินงานครอบคลุมหลายภูมิภาค ทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน ตะวันออกกลาง และแคนาดา

 

ล่าสุด พวกเขายังได้ยื่นเอกสารเพื่อขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอีกครั้ง หลังจากระดมทุนส่วนตัวจนทำให้ มูลค่าบริษัทพุ่งสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพของ AI ในการปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

 

การที่บริษัทยาระดับโลกและสตาร์ทอัพอย่าง Insilico Medicine ต่างให้ความสำคัญและลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำว่า ยุคแห่ง "ยาที่สร้างโดย AI" กำลังจะมาถึงเร็วกว่าที่เราคิด

 

ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้การพัฒนายามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังอาจนำมาซึ่งการเข้าถึงยาใหม่ๆ ที่รวดเร็วและมีต้นทุนที่เหมาะสมกว่าเดิมในอนาคต

 

หัวใจสำคัญของ Insilico Medicine คือระบบ AI แบบ "ครบวงจร" ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองในชื่อ Pharma.AI ซึ่งผสานรวมชีววิทยา เคมี และการแพทย์ทางคลินิกเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด

 

ระบบนิเวศ Pharma.AI ประกอบด้วยแพลตฟอร์มและโมดูลต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ อาทิ:  


อีก 5 ปี! ยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

 

  • PandaOmics สำหรับการค้นพบเป้าหมายยา: แพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ใช้ AI และชีวสารสนเทศในการวิเคราะห์ข้อมูลชีวภาพขนาดใหญ่และข้อมูลข้อความทางการแพทย์ แพลตฟอร์มนี้สามารถสร้างสมมติฐานเป้าหมายยาใหม่ๆ หรือที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยลดระยะเวลาที่จำเป็นจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่คลิก  

 

  • Chemistry42 สำหรับการสร้างโมเลกุล: แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมสำหรับการค้นคว้ายาโมเลกุลขนาดเล็ก โดยรวม AI เข้ากับวิธีการทางฟิสิกส์เพื่อสร้างโมเลกุลที่เหมาะสมที่สุด สามารถออกแบบโมเลกุลใหม่ทั้งหมด ปรับปรุงสารออกฤทธิ์ หรือทำนายคุณสมบัติทางเคมีของโมเลกุลได้อย่างแม่นยำ  

 

  • inClinico สำหรับการทำนายผลการทดลองทางคลินิก: แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งทำนายความน่าจะเป็นที่การทดลองทางคลินิกจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านจากระยะที่ 2 ไปยังระยะที่ 3 และช่วยระบุจุดอ่อนในการออกแบบการทดลอง  

 

  • Nach01 และ Dora: Nach01 เป็นโมเดลพื้นฐานหลายรูปแบบสำหรับภาษาธรรมชาติและภาษาเคมี ในขณะที่ Dora เป็นผู้ช่วยวิจัยเชิงกำเนิดแบบหลายเอเจนต์ ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม Pharma.AI 

 

อีก 5 ปี! ยาที่สร้างโดย AI ออกสู่ตลาดจริง ปฏิวัติวงการเภสัชกรรม

 

 

AI พลิกโฉมอุตสาหกรรมยาอย่างไร?

 

การเข้ามาของ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยาอย่างลึกซึ้งในหลายมิติ:

 

  • เร่งความเร็วและลดต้นทุน R&D: กระบวนการพัฒนายาแบบดั้งเดิมใช้เวลานานถึง 10-15 ปี และมีค่าใช้จ่ายกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ AI สามารถย่นระยะเวลานี้ได้มากถึง 4 ปี และลดต้นทุน R&D ได้มากถึง 50% โดยการทำให้งานต่างๆ เช่น การคัดกรองโมเลกุล การระบุเป้าหมาย และการทำนายความเป็นพิษเป็นไปโดยอัตโนมัติ  

 

  • เพิ่มอัตราความสำเร็จและคุณภาพยา: AI เพิ่มโอกาสความสำเร็จในการพัฒนายา โดยการปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ของการค้นพบและการทดสอบ ซึ่งนำไปสู่คุณภาพของผู้สมัครยาที่สูงขึ้น และเพิ่มอัตราการค้นพบสารออกฤทธิ์ได้ถึง 40% AI มีศักยภาพที่จะเพิ่มความน่าจะเป็นของความสำเร็จทางคลินิก ซึ่งโดยปกติอยู่ที่เพียง 10% เท่านั้น  

 

  • นวัตกรรมในการออกแบบยาและการค้นพบเป้าหมายใหม่: AI ส่งเสริมนวัตกรรมโดยการทำให้สามารถค้นพบเป้าหมายการรักษาใหม่ๆ รวมถึงเป้าหมายที่เคยถูกพิจารณาว่า "ไม่สามารถใช้ยาได้" ด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม McKinsey คาดการณ์ว่า AI สามารถเพิ่มเป้าหมายยาที่สามารถดำเนินการได้ถึงอย่างน้อย 30% นอกจากนี้ โมเดล AI เชิงกำเนิดยังช่วยให้สามารถออกแบบโครงสร้างโมเลกุลใหม่ทั้งหมดที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้สามารถสำรวจพื้นที่ทางเคมีขนาดใหญ่ด้วยความเร็วและความแม่นยำที่ไม่เคยมีมาก่อน  

 

  • เขย่าโมเดลธุรกิจดั้งเดิมและภูมิทัศน์การแข่งขัน: ตลาด AI ในการค้นคว้ายาคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030 และ 13.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2034 สตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วย AI กว่า 250 แห่งได้เกิดขึ้นทั่วโลก และบริษัทยาต่างนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็ว โดยมีการใช้ AI ในอุตสาหกรรมยาเพิ่มขึ้น 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา AI ไม่ใช่เพียงนวัตกรรมที่ "น่ามี" เท่านั้น แต่เป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ที่ "ต้องมี" เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ