posttoday

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

20 พฤษภาคม 2568

มัดรวมให้แล้ว! เปิดคู่มือ "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดล AI อย่างไรให้ตรงเนื้องานที่กำลังทำอยู่ ดันศักยภาพพุ่งกระฉูด

KEY

POINTS

  • OpenAI มีโมเดล AI หลายรุ่น นอกเหนือจาก ChatGPT ทั่วไป เช่น ตระกูล GPT  และตระกูล o
  • GPT เหมาะกับงานภาษาทั่วไป งานสร้างสรรค์ และการสื่อสาร ขณะที่ตระกูล o เน้นการคิดวิเคราะห์ งานเทคนิค โค้ดดิ้ง และแก้ปัญหาซับซ้อน
  • แต่ละโมเดลในตระกูล o มีจุดเด่นต่างกัน เช่น o1 เน้นคิดลึก, o3 เก่งโค้ด/คณิต/วิทย์, o4 mini เด่นความเร็ว/คุ้มค่า

หากใครเป็นคนหนึ่งที่ใช้งาน AI โดยเฉพาะโมเดลจาก OpenAI อย่าง ChatGPT น่าจะสังเกตเห็นว่า OpenAI ขยันเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ

 

จนบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแต่ละรุ่นชื่อแปลกๆ อย่าง GPT-4o, GPT-4.5, o1, o3, หรือ o4 mini มันแตกต่างกันยังไง? 

 

แล้วรุ่นไหนล่ะที่เหมาะกับงานที่เรากำลังทำอยู่? ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความด้วย ChatGPT เขียนโค้ดด้วย ChatGPT หรือให้ ChatGPT วิเคราะห์ข้อมูล

 

ตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวจนสร้างกระแสไปทั่วโลกในปี 2022 OpenAI ก็ได้ขยายขีดความสามารถและแตกไลน์โมเดลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

 

แม้จะมีคู่แข่งที่น่าสนใจในตลาดอย่าง Claude, Gemini, หรือ Perplexity แต่โมเดลของ OpenAI ก็ยังคงเป็นที่รู้จักและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย

 

ความสามารถของโมเดล ChatGPT มีความหลากหลายมาก บางรุ่นถูกออกแบบมาให้เก่งเป็นพิเศษในงานเชิงปริมาณ เช่น การเขียนโค้ด หรือการวิเคราะห์ตัวเลข

 

ขณะที่บางรุ่นก็โดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์ข้อความ หรือการให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ 

 

การรู้ว่าโมเดล ChatGPT รุ่นไหนทำอะไรได้ดี จะช่วยให้เราใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจโมเดลหลักๆ ของ OpenAI พร้อมแนะนำแนวทางเลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้รู้ วิธีใช้ ChatGPT สำหรับงานต่างๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การเขียนโค้ดด้วย ChatGPT หรือการวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อน ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

 

ตระกูล GPT จากโมเดลภาษาเรือธง สู่ความสามารถรอบด้านด้วย 'omni'

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2023 OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4 ในฐานะโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ตัวเรือธง ซึ่ง Sam Altman ซีอีโอของบริษัทเคยบอกว่า โมเดลนี้คือผลจากการทุ่มเทของทีมงานเกือบทั้งหมดและบุคลากรนับร้อยชีวิต 

 

ถือเป็นโมเดลที่แสดงความฉลาดในระดับสูงอย่างชัดเจน สามารถสอบผ่านการทดสอบมาตรฐานต่างๆ ที่แม้แต่มนุษย์ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เช่น SAT, GRE หรือแม้แต่การสอบเนติบัณฑิต

 

ต่อมา บริษัทได้ยกระดับโมเดลเรือธงนี้ไปอีกขั้นสู่ GPT-4o ซึ่งเปิดตัวในช่วงปลายปีที่แล้ว (2024) รุ่นนี้ยังคงความฉลาดในระดับเดียวกับ GPT-4 แต่ทำงานได้รวดเร็วกว่ามาก

 

และปรับปรุง "ความสามารถทั้งด้านข้อความ เสียง และภาพ" ให้ดียิ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยชื่อ 'o' ย่อมาจากคำว่า 'omni' ที่แปลว่า รอบด้าน

 

จุดเด่นของ GPT-4o คือความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลายรูปแบบพร้อมกัน สามารถแปลคำพูดได้ฉับไว ช่วยงานคำนวณพื้นฐานทางพีชคณิตเชิงเส้น

 

และมีความสามารถด้านการประมวลผลภาพที่ก้าวหน้าที่สุด ภาพที่สร้างขึ้นในสไตล์ Studio Ghibli ก็สามารถสร้างความฮือฮาทางออนไลน์ได้แม้จะมีประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ที่ถูกตั้งคำถามตามมาก็ตาม

 

เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับ วิธีใช้ ChatGPT ในงานทั่วไป OpenAI แนะนำว่า GPT-4o เหมาะกับงานที่ต้องทำในชีวิตประจำวันและต้องการความเร็ว เช่น การระดมสมองไอเดีย การสรุปเนื้อหา การร่างอีเมล หรือการตรวจทานรายงานต่างๆ 

 

 

ถัดมาคือ GPT-4.5 ที่ Sam Altman ได้อธิบายถึงโมเดลนี้ผ่านโพสต์บน X ว่าเป็น "โมเดลแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับคนที่ช่างคิดและมีความรอบคอบอย่างแท้จริง"

 

GPT-4.5 คือความก้าวหน้าล่าสุด ซึ่งเน้นการยกระดับโมเดลให้มีความรู้ความเข้าใจโลกมากขึ้น มีสัญชาตญาณที่ดีขึ้น และลดการสร้างข้อมูลที่ผิดพลาด หรือ อาการหลอนให้เหลือน้อยลงสุดๆเท่าที่จะทำได้

 

ดังนั้น หากใครต้องเผชิญสถานการณ์ที่ต้องสื่อสารเรื่องละเอียดอ่อนหรือมีประเด็นท้าทายกับเพื่อนร่วมงาน GPT-4.5 อาจช่วยปรับเปลี่ยนถ้อยคำให้ดูเป็นมืออาชีพและมีชั้นเชิงมากขึ้นได้

 

วิธีใช้ ChatGPT รุ่น GPT-4.5 OpenAI ระบุว่าเหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น โครงการที่ต้องทำงานร่วมกัน หรือการระดมสมองไอเดียต่างๆ  

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

 

ตระกูล 'o': AI นักคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเชิงปริมาณและตรรกะ

 

นอกเหนือจากโมเดลภาษาตระกูล GPT แล้ว OpenAI ยังได้พัฒนาโมเดลที่เน้นความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ (Reasoning Models) โดยเฉพาะภายใต้ชื่อตระกูล 'o'

 

โมเดลแรกในกลุ่มนี้คือ o1 ซึ่งเปิดตัวเวอร์ชันขนาดเล็ก o1-mini ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว (2024) ตามมาด้วยเวอร์ชันเต็มในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

 

นักวิจัยของบริษัทระบุว่า นี่เป็นโมเดลกลุ่มแรกที่ได้รับการฝึกฝนให้ "คิด" ประมวลผลข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอนก่อนที่จะให้คำตอบ ซึ่งต่างจากโมเดลทั่วไปที่มักจะตอบทันที 

 

เทคนิคการฝึกฝนนี้รู้จักกันในชื่อ Chain-of-Thought โดยเปรียบเสมือนการฝึกให้ AI คิดวิเคราะห์ปัญหาใหญ่โดยการแบ่งย่อยออกเป็นขั้นตอนเล็กๆ ก่อนที่จะหาคำตอบสุดท้าย

 

วิธีใช้ ChatGPT o1 และ o1-mini ทาง OpenAI ระบุว่า โมเดลรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ตรรกะ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน งานที่ต้องการความแม่นยำด้านตัวเลขและตรรกะ 

 

สำหรับงานที่ยากและซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก OpenAI มีโหมด Pro ของ o1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ใช้พลังการประมวลผลสูงขึ้นเพื่อ "คิดให้หนักขึ้น" และให้คำตอบที่ดีกว่าเดิม 

 

o1 Pro เหมาะสำหรับปัญหาที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึกขั้นสุด เช่น การสร้างอัลกอริทึมสำหรับคาดการณ์แนวโน้มทางการเงินด้วยโมเดลทฤษฎีที่ซับซ้อน หรือการสรุปเนื้อหางานวิจัยหลายหน้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกิดใหม่

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด
 

o3 และ o3-mini ตอบโจทย์คนอยากเขียนโค้ดด้วย ChatGPT

 

เทรนด์ของโมเดลขนาดเล็กที่ทำงานได้รวดเร็วและคุ้มค่ากำลังมาแรงในอุตสาหกรรม AI และ OpenAI ก็ไม่พลาดที่จะลงมาเล่นในตลาดนี้ โดยเปิดตัวโมเดลขนาดเล็กในตระกูล 'o' เพิ่ม 

 

o3 mini เปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยชูจุดเด่นว่าเป็น "โมเดล AI คิดวิเคราะห์ที่ประหยัดต้นทุนที่สุด" ในซีรีส์นี้ 

 

มีความสามารถในการรับมือกับคำถามที่ซับซ้อน และมีชั้นเชิงด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการเขียนโค้ด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ เขียนโค้ดด้วย ChatGPT ในงานพัฒนาที่ต้องการความรวดเร็ว

 

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า o3 mini โดดเด่นในงานพัฒนาที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การเขียนโปรแกรมพื้นฐานใน HTML และ CSS การสร้างฟังก์ชัน JavaScript ง่ายๆ หรือการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว 

 

นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน 'mini high' ที่นักพัฒนาระบุว่าดีกว่าสำหรับงาน 'การเขียนโค้ดและตรรกะที่ซับซับซ้อน' แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมบางประการก็ตาม

 

สำหรับงานที่ซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น OpenAI ก็มี o3 เวอร์ชันเต็ม ซึ่งเปิดตัวในเดือนเมษายน โดยเรียกว่าเป็น "โมเดลการคิดวิเคราะห์ที่ทรงพลังที่สุด"

 

ซึ่งผลักดันขีดจำกัดทั้งในด้านการ เขียนโค้ดด้วย ChatGPT, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, การรับรู้ภาพ และอื่นๆ

 

OpenAI ระบุว่า o3 เหมาะที่สุดสำหรับงานที่ซับซ้อนหรือต้องอาศัยหลายขั้นตอน เช่น การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การเขียนโค้ดด้วย ChatGPT ในปริมาณมาก หรืองานคณิตศาสตร์ขั้นสูง

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

 

o4 mini: AI สาย Speed เน้นคิดวิเคราะห์เร็วและคุ้มค่า

 

ปิดท้ายด้วยโมเดลขนาดเล็กอีกตัวคือ o4 mini ที่เปิดตัวในเดือนเมษายนเช่นกัน OpenAI ระบุว่าโมเดลนี้ "ได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการคิดวิเคราะห์ที่รวดเร็ว"

 

ความโดดเด่นของ o4 mini คือประสิทธิภาพที่น่าทึ่งเมื่อเทียบกับต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน "คณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และงานภาพ"

 

เป็นโมเดลที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดในการทดสอบ American Invitational Mathematics Examination ในปี 2024 และ 2025

 

ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถด้านคณิตศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม นี่คือ วิธีใช้ ChatGPT เพื่อแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว

 

o4 mini และเวอร์ชัน mini-high เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการคิดวิเคราะห์ที่รวดเร็วและค่อนข้างตรงไปตรงมา สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในงานเชิงปริมาณที่ต้องทำในแต่ละวันได้ 

 

เปรียบเทียบง่ายๆ คือ ถ้า o3 เน้นงานลึก ซับซ้อน o4 mini จะเด่นเรื่องความเร็วและความตรงไปตรงมา สำหรับงานที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว

 

OpenAI กล่าวว่า o4 mini เหมาะที่สุดสำหรับงานเทคนิคที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ STEM แบบสั้นๆ

 

และยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการคิดวิเคราะห์ภาพ เช่น การดึงข้อมูลสำคัญจากไฟล์ CSV หรือการสรุปบทความทางวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว นี่คือ วิธีใช้ ChatGPT เพื่อจัดการข้อมูลและสรุปเนื้อหาทางเทคนิคได้อย่างฉับไว

 

มัดรวม "วิธีใช้ ChatGPT" เลือกโมเดลตรงเนื้องาน ศักยภาพพุ่งกระฉูด

 

เลือกโมเดล ChatGPT ตัวไหนให้โดนใจ

 

จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้โมเดล AI ของ OpenAI นั้นไม่ได้มีคำตอบตายตัวว่ารุ่นไหน "ดีที่สุด" แต่ขึ้นอยู่กับ "ประเภทของงาน" ที่เราต้องการทำเป็นหลัก 

 

การทำความเข้าใจความสามารถของแต่ละโมเดล จะช่วยให้เรารู้ วิธีใช้ ChatGPT ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์งานเขียน การวิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่การ เขียนโค้ดด้วย ChatGPT

 

  • หากเน้นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการสื่อสารที่ละเอียดอ่อน GPT-4.5 อาจตอบโจทย์ได้ดี

 

  • ส่วนงานทั่วไปที่ต้องการความรวดเร็วและความสามารถหลากหลาย GPT-4o คือตัวเลือกหลัก

 

  • สำหรับงานที่ต้องคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาซับซ้อน หรือเน้นงานเชิงเทคนิค โมเดลในตระกูล 'o' ตั้งแต่ o1, o3, และ o4 mini ต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัว 

 

  • o1 เหมาะกับการคิดวิเคราะห์เชิงลึกและแก้ปัญหาซับซ้อน

 

  • o3 โดดเด่นด้านโค้ด วิทย์ คณิต และงานหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน 

 

  • o4 mini เน้นความรวดเร็วและคุ้มค่าสำหรับงานวิเคราะห์ที่ไม่ซับซ้อนมากนัก


 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68