สหรัฐฯ กร้าว! ห้ามทั่วโลก ใช้ "ชิป AI Huawei " ชี้ละเมิดกฎหมายส่งออก

ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างมหาอำนาจ ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนและรุนแรงยิ่งขึ้นต่อบริษัท Huawei Technologies Co.

 

โดยออกคำแนะนำที่ระบุอย่างชัดเจนว่า การใช้งานชิปประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น Ascend ของ Huawei "ที่ใดก็ตามในโลก" ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างโจ่งแจ้ง

 

ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดกั้นการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในด้าน AI ซึ่งถูกมองว่าเป็นขุมพลังสำคัญในอนาคต

 

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (BIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (ตามเวลาท้องถิ่น)

 

เพื่อ "ส่งสัญญาณเตือน" ไปยังทุกภาคส่วนเกี่ยวกับ "ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการยินยอมให้ใช้ชิป AI ที่มาจากสหรัฐฯ ในการฝึกฝน (training) และประมวลผล (inference) สำหรับโมเดล AI ของจีน"

 

โดย BIS ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การฝึกฝนโมเดล AI คือการ "สอน" ระบบด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ให้สามารถเรียนรู้และสร้างรูปแบบได้ ส่วนการประมวลผล (inference) คือขั้นตอนที่โมเดล AI ใช้ความสามารถที่เรียนรู้มานั้นในการทำงานจริง

 

คำแนะนำที่เข้มงวดรอบล่าสุดนี้ ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับ Huawei ที่มีฐานใหญ่อยู่ในเมืองเซินเจิ้น โดยตรงต่อเป้าหมายการพัฒนาชิปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทั้งสำหรับแอปพลิเคชัน AI และสมาร์ทโฟน

 

ซึ่งความพยายามเหล่านี้ก็เผชิญอุปสรรคครั้งใหญ่มาอย่างต่อเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ เคยประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ก่อนหน้านี้เอง Bloomberg ได้รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า Huawei กำลังเดินหน้าออกแบบชิปประมวลผล Ascend รุ่นใหม่สองตัว

 

 

ซึ่งบริษัทวางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งกับชิป AI ระดับเรือธงที่ครองตลาดของ Nvidia โดยมีแผนจะใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่แพร่หลายมาระยะหนึ่งแล้ว

 

แต่ถึงกระนั้น ข้อจำกัดด้านการส่งออกที่นำโดยสหรัฐฯ ก็ได้ทำให้บรรดาพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตชิปของ Huawei ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่จำเป็นได้มานานแล้ว

 

น่าสนใจว่า คำแนะนำล่าสุดเกี่ยวกับการใช้ชิป Huawei นี้ ถูกประกาศออกมาพร้อมๆ กับการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกกฎระเบียบที่บังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน

 

ซึ่งเป็นกฎที่ควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้สำหรับการพัฒนา AI กฎระเบียบเดิมนี้เคยถูกคัดค้านอย่างหนักทั้งจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Nvidia และ Oracle

 

โดยทางกระทรวงฯ ให้เหตุผลว่า กฎของรัฐบาลไบเดนนั้น "ได้บ่อนทำลายความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกนับสิบประเทศ และเป็นการลดทอนสถานะของพวกเขาให้กลายเป็นเพียงพันธมิตรระดับรอง"

 

ทางกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าจะมีการออกประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อยืนยันการยกเลิกกฎดังกล่าว และจะมีการออกกฎระเบียบฉบับใหม่เข้าทดแทน "ในอนาคตอันใกล้"

 

ในส่วนของแนวทางสำหรับกฎระเบียบใหม่ในอนาคต มีรายงานว่าทีมงานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาร่างแนวทางของตนเอง ซึ่งอาจเน้นไปที่การเจรจาข้อตกลงแบบทวิภาคี (ข้อตกลงรายประเทศ) กับพันธมิตรต่างๆ

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เน้นย้ำว่า ไม่ว่ากฎระเบียบใหม่จะมีหน้าตาแบบใด เป้าหมายหลักยังคงเป็นการสร้าง "กลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและครอบคลุม"

 

"เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันเทคโนโลยี AI ของอเมริกากับประเทศพันธมิตรที่เชื่อถือได้ทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ต้องมั่นใจว่าเทคโนโลยีจะไม่ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม"

 

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสหรัฐฯ และจีนในเวทีเทคโนโลยี โดยเฉพาะในขอบเขตของ AI ซึ่งชิปประมวลผลคือขุมกำลังสำคัญ

 

และสำหรับ Huawei แล้ว การถูกจำกัดการเข้าถึงและใช้งานชิปถือเป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวง การประกาศล่าสุดนี้จึงยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนรายนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้