posttoday

AI บนเวที Oscar กับแนวโน้มวงการภาพยนตร์ในอนาคต

05 มีนาคม 2568

การประกาศผลรางวัลและผู้ชนะ Oscar 2025 นำไปสู่คำถามในหลายด้าน จากการที่ภาพยนตร์ที่ได้รางวัลหลายเรื่องมีการใช้ AI วันนี้เราจึงพามารับชมภาพยนตร์ที่ใช้ AI และแนวโน้มในอนาคต

Oscar 2025 ได้รับการประกาศผลเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย ตามมาด้วยหัวข้อสนทนาที่ชวนให้ตั้งคำถามถึงภาพยนตร์และดาราที่ได้รางวัลในแต่ละเรื่องมีความเหมาะสมแค่ไหน แต่ปีนี้กลับยิ่งทวีความซับซ้อน เมื่อภาพยนตร์ที่ฉายและเข้าชิงรางวัลถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยประเด็นการใช้ AI

 

วันนี้เราจึงมาพูดถึงภาพยนตร์ที่ใช้งาน AI บนเวทีออสการ์กันสักหน่อย

 

AI บนเวที Oscar กับแนวโน้มวงการภาพยนตร์ในอนาคต

 

ภาพยนตร์ที่มีการใช้ AI บนเวทีออสการ์

 

ภาพยนตร์ The Brutalist ผลักดัน Adrien Brody ให้ได้รับรางวัลสาขาดารานำชายยอดเยี่ยม ส่วน Emilia Pérez ได้รับรางวัล ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวที Oscar 2025 นับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่แต่ก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่แพ้กัน

 

สาเหตุเนื่องมาจากภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องมีการสอดแทรกใช้งาน AI เข้ามาในขั้นตอนการผลิต The Brutalist มีการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสำเนียงนักแสดงที่ใช้ภาษาฮังการีภายในเรื่องให้ตรงกับสำเนียงท้องถิ่นมากที่สุด ในขณะที่ Emilia Pérez ก็มีการใช้ AI ในการปรับแต่งเสียงร้องของนักแสดงนำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับรางวัลทั้งสิ้น

 

สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้ AI ในวงการภาพยนตร์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากความหวาดกลัวว่าแรงงานจะถูก AI เข้ามาแทนที่ กลายเป็นประเด็นที่นำไปสู่การหยุดงานประท้วงของนักเขียนบทและนักแสดงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2024 มาแล้วครั้งหนึ่ง

 

นี่เป็นเหตุผลให้นำไปสู่มิติใหม่ของข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้ AI ในวงการภาพยนตร์ เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับแต่งทำให้พวกเขาคว้ารางวัลนี้ จนเกิดข้อถกเถียงหลายประการ เช่น ควรนับผลงานที่ใช้ AI เป็นส่วนประกอบอย่างไร, บทบาทของปัญญาประดิษฐ์ต่อภาพยนตร์แต่ละเรื่อง หรือความหมายในเชิงศิลปะของภาพยนตร์และการแสดง

 

ถือเป็นคำถามสำคัญของวงการภาพยนตร์ที่ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่จนปัจจุบัน

 

AI บนเวที Oscar กับแนวโน้มวงการภาพยนตร์ในอนาคต

 

การใช้งาน AI ของคนในวงการจอเงิน

 

ใช่จะไม่มีข้อโต้แย้งเสียทีเดียวเมื่อทาง Brady Corbet ผู้กำกับ The Brutalist ได้ออกมาชี้แจงว่า ทางนักแสดงนำได้ทำการเรียนรู้ภาษาฮังการีและเลียนแบบสำเนียงเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้สมบูรณ์เท่าคนท้องถิ่น พวกเขาจึงตัดสินใจนำ AI มาใช้เพื่อให้ภาพยนตร์มีความสมบูรณ์และถ่ายทอดออกมาได้ตรงตามต้องการที่สุด

 

การใช้งาน AI ในสื่อภาพยนตร์ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เริ่มได้รับการพูดถึงอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากใช้ปรับปรุงเสียงแล้วยังถูกใช้ด้านงานภาพด้วย เช่น A Complete Unknown อีกหนึ่งภาพยนตร์ชิง Oscar 2025 ที่มีการนำ AI ชื่อ Revize ในการปรับปรุงภาพถ่ายฉากสั้นๆ หรือแม้แต่สีฟ้าในภาพยนตร์ Dune part two ก็มีการใช้ AI ปรับแต่งเช่นกัน

 

เห็นได้ชัดว่า AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในทุกระดับ ไม่เพียงแค่ในขั้นตอนกระบวนการผลิตเท่านั้น ในขั้นตอนการโปรโมทบางส่วนก็เริ่มมีการนำ AI เข้ามาใช้งาน ภาพยนตร์บางเรื่องเริ่มนำ AI มาใช้ในการทำโปสเตอร์ ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

 

สำหรับคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยตรงอาจไม่ส่งผลกระทบนัก พวกเขามีสหภาพที่เข้มแข็งคอยสนับสนุน แต่สำหรับส่วนอื่นของอุตสาหกรรม บทบาทของ AI ที่เข้ามาในวงการภายนตร์ทำให้พวกเขากังวล โดยเฉพาะศิลปินด้านภาพ นักพากย์เสียง ไปจนทีมอนิเมเตอร์ที่ไม่มีข้อคุ้มครองและกฎระเบียบที่แน่นอนจนเสี่ยงต่อการตกงาน

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ไม่มีใครปฏิเสธ AI อย่างสิ้นเชิง พวกเขาตระหนักดีว่าความเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้น บริษัทหรือสตูดิโอยักษ์ใหญ่บางส่วนเริ่มมีการปรับใช้ แอปพลิเคชัน AI ที่ให้บริการเองก็มีประโยชน์ ช่วยลดภาระและเพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการผลิตผลงาน

 

ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีล้วนส่งผลกระทบต่อสื่อภาพยนตร์เสมอมา ตั้งแต่การเปิดตัวภาพยนตร์เสียง, การมาถึงของฟิล์มสี ขยับเข้ามาถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิก สิ่งเหล่านี้พลิกโฉมวงการภาพยนตร์ไปจากเดิม แต่ก็ก่อให้เกิดโอกาส อาชีพ และการเติบโตในทิศทางใหม่ด้วยเช่นกัน

 

AI บนเวที Oscar กับแนวโน้มวงการภาพยนตร์ในอนาคต

 

แนวโน้ม AI วงการภาพยนตร์นับจากนี้

 

ตามที่กล่าวไปข้างต้นเหมือนที่เกิดขึ้นกับหลายวงการ ไม่ว่าต้องการหรือไม่เทคโนโลยีจะพัฒนาต่อไป เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนำ AI มาปรับใช้  แต่การจะใช้งานรูปแบบใด ส่งผลกระทบต่อการนำเสนอแค่ไหน ต้องเปลี่ยนแปลงส่วนใด หรือรักษาอะไรไว้จึงจะยังคงหัวใจของสื่อภาพยนตร์ นั่นเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้ผลิตจะต้องตีโจทย์

 

ทางฝั่ง Oscar เริ่มมีข้อถกเถียงให้ติดป้ายกำกับงานที่นำ AI เข้ามาช่วยเหลือเช่นกัน เพื่อสร้างความโปร่งใสให้แก่วงการและการพิจารณา อย่างไรก็ตามยังมีโจทย์ใหญ่ในด้านการติดป้าย AI นั้นต้องมีการนำมาใช้ในอัตราส่วนเท่าไหร่ จะสามารถติดตามตรวจสอบได้อย่างไรว่ามีการนำ AI มาใช้งาน รวมถึงนิยามการนำ AI มาใช้ที่จะถูกตั้งคำถามต่อไป

 

อย่างไรก็ตามส่วนที่ต้องได้รับการจับตาและควบคุมอย่างจริงจังคือ ปัญหาด้านลิขสิทธิ์ ความเป็นส่วนตัว หรือการนำ AI มาใช้ผิดวิธี อาจต้องมีการร่างระเบียบข้อบังคับอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในส่วนการนำข้อมูลในการทำงาน เช่น เสียงพากย์ ลายเส้น หรือสไตล์ศิลปะมาใช้ในการเทรนและผลิตซ้ำด้วย AI แบบเดียวกับที่เกิดกับฝั่งนักแสดงและคนเขียนบท

 

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ วงการภาพยนตร์จำเป็นต้องหาแนวทางใช้งานและควบคุมอย่างเหมาะสม แบบเดียวกับกฎหมายควบคุม AI ที่กำลังอยู่ในร่างวินิจฉัยของหลายประเทศ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงกันอีกมาก จึงจะสามารถหาจุดลงตัวระหว่างการปิดกั้นการใช้และการเอารัดเอาเปรียบคนในอุตสาหกรรมต่อไป

 

 

 

จริงอยู่สำหรับผู้ชมอย่างเราหลายท่านอาจมองว่านี่เป็นเรื่องไกลตัวจนไม่เกี่ยวข้อง แต่แท้จริงผู้ชมถือเป็นจุดตัดสินสำคัญของทุกการเปลี่ยนแปลงในยวงการภาพยนตร์เสมอมา การรับชมหรือสนับสนุนผลงานจะเป็นตัวตัดสินว่า ผู้ชมอย่างเราเปิดใจให้ใช้ AI นำเสนอได้แค่ไหน

 

เชื่อว่าสุดท้ายความรู้สึกของเราจะเป็นตัวบอกเองว่า สื่อดังกล่าวมีค่าพอให้เรียกว่าภาพยนตร์หรือไม่

 

 

 

ที่มา

 

https://interestingengineering.com/entertainment/ai-debate-adrien-brody-oscar-2025

 

https://techxplore.com/news/2025-02-qa-ai-industry.html

 

https://www.indiewire.com/news/analysis/oscars-consider-ai-disclosure-a-complete-unknown-1235093013/

 

ข่าวล่าสุด

ทร.แจงไม่ได้ข่มขู่กัมพูชา ย้ำใช้กลไกทวิภาคีปมเขื่อนกันคลื่น