posttoday

DeepSeek AI: เมื่อจีนพลิกวงการ AI โลกด้วยทรัพยากรที่น้อยกว่า

04 กุมภาพันธ์ 2568

DeepSeek AI จากจีน สร้างกระแสสะเทือนวงการด้วยพลังการคำนวณต่ำแต่ประสิทธิภาพสูง ก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยเทคนิคใหม่ ไทยจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?

AI จากจีนอย่าง DeepSeek กลายเป็นที่จับตามองของโลก ด้วยประสิทธิภาพที่สูงล้ำ ทั้งที่ใช้ทรัพยากรต่ำกว่าคู่แข่งระดับโลกหลายร้อยเท่า ทำให้เกิดทั้งความมหัศจรรย์และข้อสงสัยในเวลาเดียวกัน

 

การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องอาศัย 3 ปัจจัยหลัก:

 

1. พลังการคำนวณ – DeepSeek ใช้ GPU รุ่นเก่า Nvidia H800 เพียง 2,000 ชุด ขณะที่บริษัทอเมริกันอย่าง xAI ของ Elon Musk ติดตั้งซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มี GPU รุ่นล่าสุด B200 กว่า 200,000 ชุด ซึ่งเร็วกว่าเป็นร้อยถึงพันเท่า นี่คือความมหัศจรรย์ข้อแรก – ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ยังแข่งขันได้

 

2. โมเดล AI อัจฉริยะ – DeepSeek มีตัวแปร (Parameters) มากถึง 685,000 ล้านตัว และเป็นโมเดลแรกที่ใช้ 8-bit floating point (FP8) ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากรแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง นี่คือความมหัศจรรย์ข้อสอง – ลดต้นทุนแต่ยังมีพลังเทียบเท่าหรือเหนือกว่าคู่แข่ง

 

3. ข้อมูลมหาศาล – AI ที่ดีต้องการข้อมูลปริมาณมหาศาลเพื่อเรียนรู้ คำถามคือ DeepSeek ได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากไหนในระยะเวลาอันสั้น? นี่คือความมหัศจรรย์ข้อสาม – ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่อาจมาพร้อมข้อกังขา

 

DeepSeek แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของจีนในการพัฒนา AI แม้จะเผชิญข้อจำกัดจากการถูกกีดกันทางเทคโนโลยีจากตะวันตก ในขณะที่ไทยเองจะสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้? จะปล่อยให้โลกหมุนไปโดยไม่มีเรา หรือจะลุกขึ้นมาพัฒนาศักยภาพ AI ของตัวเอง?