posttoday

อ่านใจรัฎฐาธิปัตย์ใหม่ของเมียนมา

13 มีนาคม 2564

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในเมียนมา ค่อนข้างจะรวดเร็วมาก รวมไปถึงเกมการแย่งชิงฝูงชนของทั้งสามฝ่าย ที่กำลังดุดันมากขึ้นไปทุกที มีแฟนคลับที่ถามมาว่า สถานการณ์ปัจจุบันนี้ ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียเปรียบ 

ผมเองก็ไม่สามารถที่จะฟันธงลงไปว่าฝ่ายไหนเหนือกว่าฝ่ายไหน  เพราะยังต้องทำธุรกิจในนั้นอยู่ จะให้ผมพูดตรงเกินไปคงไม่ได้ อาจจะทำให้กิจการของผมในเมียนมา ตกอยู่ในอันตรายได้  ก็ขอความเห็นใจและเข้าใจผมด้วยนะครับ 

ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมเช่นนี้ การเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะไม่เกิดผลดีเลยครับ เราทำการค้าอยู่ ไม่ควรจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเชียร์ใครหรอกครับ เพราะเราเป็นคนนอก ยุ่งมากๆเดี๋ยวเจ็บตัวครับ

เรามาวิเคราะห์สถานการณ์แบบคนนอกมองเข้าไปในเมียนมาดีกว่าครับ ในฐานะที่รู้จักเมียนมามาสามสิบเอ็ดปี ผมมองว่าวันนี้ สถานการณ์ในเมียนมากำลังจะไปในทิศทางไหน ท่านก็อย่าเชื่อผมไปทั้งหมดนะครับ แต่อยากให้คิดตาม เพื่อวิเคราะห์แบบสนุกเล่นก็พอครับ 

วันนี้ฝ่ายของรัฎฐาธิปัตย์ใหม่ (SAC) เขากำลังรุกไล่ฝ่ายที่กำลังอยู่บนถนนประท้วงแบบอาริยะขัดขืน(CDM) อยู่ ทุกวันจะมีภาพข่าวทาง YouTube และทาง Facebook ออกมาให้เราเห็นทุกวัน 

ทั้งข่าวที่ผมดูประจำก็จะมี คือของสำนักข่าวอิรวะดีนิวส์ ที่เขารายงาน ก็จะเห็นว่าทางฝ่าย SAC ที่รุกไล่ล่า ได้เข้าไปจับกุมประชาชนในตอนกลางคืนทุกวัน ถามว่าทำไมไม่ไปจับในตอนกลางวันละ

ก็เพราะว่าตอนกลางวันคนเขาหนีกันง่ายไงครับ ตอนกลางคืนผู้ประท้วงเข้าบ้านนอน ก็ปิดประตูตีแมวเลย ง่ายกว่ากันเยอะ 

อีกทั้งเขาสามารถออกกฎหมายมารองรับไว้แล้ว จึงไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้นง่ายเลยครับ

ส่วนวิธีการอื่นๆ ผมคิดว่าฝ่ายรัฎฐาธิปัตย์ใหม่ SAC  แรกเลยเขากำลังเล่นเกมลากยาว ดึงเวลาออกไปเรื่อยๆ เพื่อให้กำลังของฝ่าย CDM อ่อนกำลังลง 

หลังจากนั้นก็จะเริ่มเก็บกวาด ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์จัดการม๊อบที่มีให้เห็นทั่วๆไป (คล้ายๆกับที่ไหนไม่รู้นะ คุ้นๆ) ในส่วนของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ เขาน่าจะเก็บกวาดทีหลัง แต่ที่ไหนได้ พอเริ่มปฎิบัติการเขาก็เริ่มต้นก็ลุยหนักเลย จะเห็นว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาเก็บหมด ทั้งกลุ่มเซเล็บ ไฮโซ และดารา เขาใช้วิธีไล่เก็บล่าตัวในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันปล่อยให้เดินขบวนไป คอยสอยเก็บไปเรื่อยๆ 

ในขณะที่ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ เขาก็ไม่ปล่อย จัดหนักเลยเช่นกันครับ ในความคิดของผม อันที่จริงกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนี้ ไม่ต้องทำการไล่ล่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะแค่ตัดงบประมาณไม่ให้บ้านพัก ไม่ให้เสบียงอาหาร ก็อยู่กันลำบากมากอยู่แล้วครับ 

แต่ทางSAC ก็ยังพยายามไล่ล่าจัดการอยู่ ผมจึงไม่แน่ใจถึงเหตุผลว่าทำไมเขาจึงต้องลงมือลงไม้หนักอย่างนั้น เรื่องนี้คงต้องดูและอ่านใจทาง SAC กันต่อไปอีกสักนิด คงจะส่อแววออกมาให้เห็นแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพนักงานธนาคาร กลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ กลุ่มบุคคลากรการศึกษา เช่นครูบาอาจารย์ของมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ผมคิดว่าฝ่ายความมั่นคงจะต้องจัดการอย่างไรอย่างหนึ่ง เช่นอาจจะกำหนดระยะเวลาในการเข้ามารายงานตัว 

ซึ่งวิธีการนี้ทางคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรนอกสภาฯ (CRPH) เคยนำมาสั่งการ ให้ข้าราชการทุกหน่วยงาน เข้าไปรายงานตัว หากไม่มาภายในวันที่ 8 มีนาคม ให้ถือว่าสละสิทธิ์ไม่ขอรับราชการอีกต่อไป 

ผมเชื่อว่าถ้าหากทางฝั่งของ SAC นำออกมาใช้ในวิธีเดียวกัน เพื่อทำการช่วงชิงตัวบุคคลากรหรือกลุ่มข้าราชการทั้งหมด และเชื่อว่าถ้าทาง SAC ดำเนินการไป ข้าราชการต้องหันมารายงานตัวทันที เพราะอำนาจการจ่ายเงินอยู่ในมือ SAC ย่อมเหนือกว่ากลุ่ม CRPH ที่สูญเสียอำนาจไปแล้ว ไม่รู้จะเอางบประมาณที่ไหนมาจ่ายเงินเดือนให้ 

ดังนั้นคงไม่มีใครกล้าขัดขืนแน่ เพราะขัดขืนไป ถ้าถูกให้ออกจากราชการ ก็อดอยากปากแห้งนะสิ......เอออ

ส่วนฝากฝั่งของบริษัทห้างร้านและโรงงานต่างๆที่เป็นของนักลงทุนชาวเมียนมา (ไม่นับรวมของนักลงทุนจากต่างประเทศ) ก็ต้องร้องขอให้เห็นแก่ประเทศชาติ อย่าหยุดทำการ 

ผมเชื่อว่าหากทาง SAC ร้องขอ เขาน่าจะให้ความร่วมมือ เพราะปัจจุบันนี้ แค่ปี 2020 ปีเดียว ชาวบ้านร้านตลาดเจอภัยจากเจ้าวายร้ายผีน้อย COVID-19 เข้าไป ก็อ่อมอรทัยอยู่แล้ว 

เจองานนี้เข้าไปอีก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลย หากทางการ SAC มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ซึ่งขณะนี้ก็กระตุ้นด้วยการยกเว้นภาษีนำเข้า 72 ชนิดสินค้าไปแล้ว หากทำอย่างจริงจังหรือเพิ่มให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม เชื่อว่าพ่อค้าวานิชย์ไม่มีใครอยากเจ๊งหรอกครับ เขาลงทุนไปเยอะแล้ว ดังนั้นกลุ่มนี้จึงไม่น่าจะยาก

ในส่วนของกลุ่ม CDM กลุ่มนี้อำนาจทางเศรษฐกิจจะอ่อนด้อยที่สุด เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ดูจากรูปทรงแล้ว เงินฝากในธนาคารก็ไม่น่าจะมีเยอะ ถ้าฝ่ายความมั่นคงเดินเกมลากยาว 

เขาคงจะทนไม่ไหวแน่นอน เพราะจะต้องกินต้องใช้ จึงเป็นกลุ่มน่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุด ไม่จำเป็นไปฆ่าไปแกงเขาหรอกครับ

ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมวิเคราะห์ให้ดูว่า ฝากฝั่งของความมั่นคงหรือ SAC เขากำลังเดินเกมหมากนี้กันอย่างไร เป็นแค่ความคิดเห็นของผม ที่ดูจากปฎิกริยาของเขานะครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขานะครับ และไม่ได้ไปชี้นำ เพราะเขาเองมีกุนซือเก่งๆเยอะอยู่แล้ว

แถมยังมีเงินไปจ้างนักเจรจาชาวยิว-แคนนาดา เสียเงินเสียทองไปหลายอัฐ ดังนั้นเรามองดูเขาแล้วอ่านเกมส์ที่เขากำลังดำเนินการอยู่ ก็พอจะดูออกเป็นบางเรื่องแหละครับ จะถูกจะผิดอย่างไร ก็ขออย่าได้ตำหนิผมนะครับ 

เอาเป็นว่าเราวิเคราะห์กันเล่นๆสนุกๆ อย่าจริงจังนะครับ