‘ไฮฟอง’เนื้อหอมดึงยอดลงทุนเท่าตัว

โพสต์ทูเดย์ - ต่างชาติแห่ลงทุนไฮฟอง 1,400 ล้านดอลลาร์ ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน

สำนักข่าวท้องถิ่นเวียดนามนิวส์ รายงานว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. 2561 การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ หรือเอฟดีไอ ของเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม มีมูลค่า 1,413 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเกือบ 100% จากเดือน ม.ค.-ส.ค. 2560 แบ่งเป็นการลงทุนจากต่างชาติ 94 โครงการ มูลค่า 1,390 ล้านดอลลาร์ (รวมโครงการลงทุนใหม่ 64 โครงการ) และแบ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนของต่างชาติกับบริษัทท้องถิ่นเวียดนาม มูลค่า 23 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ การลงทุนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ยังคงเป็นผู้ลงทุนหลักในเมืองไฮฟอง สำหรับในอนาคตเมืองไฮฟอง จะยังคงเร่งรัดการปฏิรูปด้านการบริหารจัดการ ด้านการปรับปรุงสภาพการลงทุน และด้านการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกให้สมบูรณ์ ทั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตอุตสาหกรรม เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศต่อเนื่อง

ขณะที่ในการปฏิรูปเมืองไฮฟองจะรวมถึงการเจรจาระหว่างผู้นำท้องถิ่นและกลุ่มนักลงทุน เพื่อขจัดปัญหาการยกเลิกใบอนุญาต จากกระบวนการที่ล่าช้าขณะที่ตลอดปี 2561 ไฮฟอง ตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนจากเอฟดีไอ มูลค่ารวม 2,000 ล้านดอลลาร์

สำหรับในปี 2560 การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เวียดนามอยู่ที่ 6.3% และในปี 2561 และ 2562 ยังคาดการณ์ว่าจะเติบโตมากขึ้นกว่า 6% โดยปรากฏการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของเวียดนามเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนด้านการนำเข้าและส่งออก การลงทุนของอุตสาหกรรม และเขตเศรษฐกิจ รวมทั้งข้อตกลงของเขตการค้าเสรีในภูมิภาค กำลังของคนรุ่นใหม่ และปัจจัยด้านค่าแรงขั้นต่ำ

นอกจากนี้ ปัจจัยด้านการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางในประเทศเวียดนามส่งผลโดยตรงต่อการขยายตัวของอี-คอมเมิร์ซ อีกทั้งความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้า ด้านโลจิสติกส์เพิ่มสูง โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ระบุว่า เวียดนามใช้จ่ายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็น 5.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งหมด