ตลาดความงามโอกาสใหญ่ในญี่ปุ่น

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

ญี่ปุ่นเป็นตลาดสินค้าความงามใหญ่อันดับ 2 ของเอเชีย โดยเทรนด์ของอุตสาหกรรมความงามญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมามุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หรือไร้สารเติมแต่งเป็นหลัก ประกอบกับประชากรในญี่ปุ่นกว่า 30% เป็นกลุ่ม ผู้สูงอายุเพศหญิงที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จึงคาดว่าเครื่องสำอางสำหรับผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจะเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สถาบันวิจัย Yano คาดการณ์ว่าในปี 2562 ตลาดเครื่องสำอางจากธรรมชาติในญี่ปุ่นจะเติบโต 5.3% และการแข่งขันจะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ผลิตที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และผู้ผลิตมีแนวโน้มจะมุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ของสินค้าจากธรรมชาติ โดยในปี 2559 ญี่ปุ่นนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากทั่วโลกมูลค่า 1,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.87% ส่วนใหญ่นำเข้าจากฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ส่วนการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากไทยอยู่อันดับที่ 7

อย่างไรก็ดี ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในการให้บริการธุรกิจสปาและบริการนวดระดับโลก ซึ่งประเทศไทยมีเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิกเป็นที่รู้จักและมีภาพลักษณ์ที่ดีในญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้กลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์จะเป็นตัวสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด โดยผู้ส่งออกอาจจะเริ่มจากการทดลองตลาดก่อนเข้าสู่ตลาดอย่างจริงจัง รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การศึกษาสรรพคุณสมุนไพรไทย การอ้างอิงผลงานวิจัยทางวิชาการ และการใช้นวัตกรรมการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของ ผู้บริโภค รวมถึงการส่งเสริมการตลาดโดยวิดีโอออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์จาก ต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย

ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสำหรับผู้สูงอายุก็กำลังเป็นเทรนด์ ใหม่ที่มีการเติบโต เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว ดังนั้นแนวโน้มประชากรสูงวัย จึงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาด เครื่องสำอางสำหรับผู้สูงวัยกลายเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย

อย่างไรก็ดี จากการเข้าสู่สังคมสูงอายุของญี่ปุ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นจะต้องคำนึงถึงปัญหาต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานของผู้บริโภค ทั้งปัญหาด้านการใช้แรงในการบีบถือ หรือหยิบจับสิ่งของ จึงต้องการให้ บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์สินค้ามีน้ำหนัก เบา และง่ายต่อการหยิบจับใช้สอย รวมถึงวิธีการใช้ต้องไม่ซับซ้อน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที

นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในด้านการรักษาโรค ทำให้ช่วงอายุของคนญี่ปุ่นมีอายุยืนขึ้น โดยในปี 2559 คนอายุ 65 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เหตุนี้ทำให้สินค้าสำหรับ ผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยที่จะพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเครื่องสำอาง แฟชั่น อาหารเสริม เสื้อผ้า กระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัว เพราะคนญี่ปุ่นใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ

สำหรับการขยายตลาดในประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะส่งขายผ่านตัวแทนหรือห้างสรรพสินค้าแล้ว อีกช่องทางหนึ่งที่เป็นตัวช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ขยายตลาดให้กว้างขึ้น นั่นก็คือการวางจำหน่ายตามร้านขายยา หรือดรักสโตร์ (Drug Store) และร้านค้าต่างๆ ตามจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งจะทำให้กระจายสินค้าไปยังร้านค้าต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นได้