เดินรถโดยสารช่องจอม-เสียมราฐ เปิดประตูสุรินทร์สู่อาเซียน

โดย...นพรัตน์ กิ่งแก้ว

แม้การผลักดันให้ด่านชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอีกแห่งหนึ่ง จะยังไม่มีเสียงตอบรับจากรัฐบาล แต่ภาคเอกชน จ.สุรินทร์ ก็ยังเดินหน้าขับเคลื่อน โดยใช้ศักยภาพของทำเลที่ตั้งด่านช่องจอมที่สามารถเดินทางเข้าไปยังใจกลางประเทศกัมพูชาได้โดยสะดวก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา ปลัดจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ ชินรุน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมกันเป็นประธานเปิดการเดินรถปรับอากาศเพื่อการท่องเที่ยว สุรินทร์-เสียมราฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครวัด นครธม แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก โดยมีระยะทาง 170 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง ซึ่งดำเนินการโดยร่วมทุน 2 ชาติ ฝ่ายไทยมี สมบัติ ศรีสุรินทร์ นักธุรกิจใน อ.กาบเชิง และอดีต สส.สุรินทร์ หลายสมัย ส่วนฝ่ายกัมพูชา โดย ซียงนำ นักธุรกิจและ สส.จังหวัดเสียมราฐ

สมบัติ บอกว่า จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายที่จะเป็นอีกหนึ่งประตูสู่อาเซียน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะเดินทางจาก จ.สุรินทร์ ไปเที่ยวนครวัด นครธม ที่จังหวัดเสียมราฐ ได้อย่างสะดวกสบายรวดเร็ว และนักท่องเที่ยวและชาวกัมพูชาก็จะสามารถเดินทางมาเที่ยว มาชื้อสินค้าที่ จ.สุรินทร์ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แบบมาเช้าเย็นกลับได้ เพราะระยะทางไปยังจังหวัดเสียมราฐ เพียง 170 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ก็ถึงปลายทาง

“เส้นทางสะดวก ค่าบริการเดินทางคนละ 350 บาท ไปและกลับ 700 บาท สามารถมาซื้อตั๋วเดินทางได้ที่ตลาดอาเซียน ใกล้ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม” สมบัติ ระบุ

สำหรับตารางเวลาการเดินทาง รถออกจากด่านช่องจอม วันละ 3 เที่ยว คือ เที่ยวเวลา 08.00 น. 09.30 น. และเที่ยวสุดท้าย 15.00 น. ขณะที่รถจากเสียมราฐเที่ยวแรกเวลา 05.00 น. เที่ยวต่อมา 06.00 น. และเที่ยวสุดท้าย 14.00 น.

ทั้งนี้ ด่านช่องจอมขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากระดับ 800 ล้านบาท ในปี 2556 ปัจจุบันสูงถึงปีละ 1,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนช่องจอม เพิ่มเติมอีก 3 ชม. รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต