ยักษ์ค้าปลีกมะกันอ่วม! "เจซีเพนนีย์" จ่อปิด 140 สาขา

เจซีเพนนีย์จ่อปิด 140 สาขาที่ไม่ทำกำไรทั่วสหรัฐ พร้อมเตรียมปรับกลยุทธ์ใหม่สู้ค้าปลีกออนไลน์ 

เจซีเพนนีย์ ห้างค้าปลีกรายใหญ่จากสหรัฐ ประกาศเตรียมปิดสาขากว่า 140 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียและฟลอริดาภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจากยอดขายในสาขาดังกล่าวซบเซา หลังบริษัทค้าปลีกออนไลน์แย่งส่วนแบ่งตลาดไป

ทั้งนี้ แม้บริษัทไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงานที่จะเลิกจ้าง แต่ได้ยื่นข้อเสนอให้พนักงาน 6,000 ราย เกษียณอายุงานก่อนกำหนด

มาร์วิน อาร์. เอลลิสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเจซีเพนนีย์ กล่าวว่า การปิดสาขาซึ่งคิดเป็น 13-14% ของสาขาทั้งหมด คาดว่าจะช่วยลดรายจ่าย 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6,972 ล้านบาท) ภายในปีนี้ ทำให้สามารถนำเงินไปลงทุนในสาขาที่สร้างกำไรมากกว่า เพื่อเพิ่มการแข่งขันกับค้าปลีกออนไลน์  

บริษัทยังมีแผนยกระดับมาตรฐานแบรนด์และปรับกลยุทธ์บริษัท ด้วยการเตรียมจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ ที่ตรงกับดีมานด์ของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยจะลดความสำคัญของเสื้อผ้าผู้หญิงลง ซึ่งที่ผ่านมาเผชิญการแข่งขันอย่างหนักจากแบรนด์เอชแอนด์เอ็ม ฟอร์เอฟเวอร์ 21 ร้านค้าออนไลน์ แล้วหันไปเน้นเสื้อผ้าลำลอง ชุดเล่นกีฬา และเสื้อผ้าพลัสไซส์มากขึ้น รวมถึงเพิ่มการจำหน่ายของเล่น ผลิตภัณฑ์ความงาม และอุปกรณ์ภายในบ้าน

ด้าน เกร็ก พอร์เทล ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจค้าปลีกจากบริษัทที่ปรึกษา เอที เคียร์นีย์ กล่าวว่า การปรับกลยุทธ์อาจช่วยสร้างโอกาสให้เจซีเพนนีย์ แต่ความท้าทายจะอยู่ที่การวางแผนการตลาดและการจัดการสินค้าใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน เจซีเพนนีย์ ระบุว่า ยอดขายในสาขาหลายแห่งที่เปิดบริการมานานกว่า 1 ปี ปรับตัวลง 0.7% ในไตรมาส 4 ปี 2016 แม้คิดรวมยอดขายช่วงวันหยุดสิ้นปี ขณะที่ยอดขายสุทธิลดลง 0.9% มาอยู่ที่ 3,960 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.38 แสนล้านบาท)

ทั้งนี้ เจซีเพนนีย์เป็นห้างค้าปลีกใหญ่ของสหรัฐล่าสุดที่จะปิดสาขา หลัง เมซี่ส และเซียร์ส เตรียมปิดสาขา 100 แห่ง และ 150 แห่ง ตามลำดับ โดยทิศทางดังกล่าวสวนทางกับอเมซอน ยักษ์อี-คอมเมิร์ซสหรัฐที่เตรียมขยายธุรกิจและจ้างงานเพิ่ม 1 แสนอัตราในสหรัฐภายในปีนี้

ภาพ...เอเอฟพี