posttoday

ประท้วงผิวสีสหรัฐบานปลาย

23 กันยายน 2559

นอร์ทแคโรไลนาประกาศภาวะฉุกเฉิน ประจำการกองกำลัง หลังประท้วงกลายเป็นจลาจล

นอร์ทแคโรไลนาประกาศภาวะฉุกเฉิน ประจำการกองกำลัง หลังประท้วงกลายเป็นจลาจล

แพท แมคคอรี ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประกาศภาวะฉุกเฉิน และระบุว่า จะประจำการกองกำลังติดอาวุธของรัฐและเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษในเมืองชาร์ลอตต์ หลังเหตุการณ์ประท้วงที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา กลายเป็นเหตุจลาจลรุนแรงในการประท้วงวันที่ 2

ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง เคียธ ลามอง สกอต ชายผิวสีเสียชีวิตในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยการประท้วงมีการขว้างปาก้อนอิฐใส่เจ้าหน้าที่ ทำลายหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ อาคาร และรถยนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ร้านค้าถูกบุกปล้นและมีพลเรือนถูกยิง 1 ราย อาการสาหัส เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 ราย โดยทางการระบุว่าเป็นฝีมือของหนึ่งในผู้ประท้วง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหลังเจ้าหน้าที่เผยรายละเอียดในวันต่อมาว่า สกอตถูกตำรวจผิวสียิงเสียชีวิต หลังปฏิเสธคำสั่งให้วางอาวุธปืนลงขณะเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปตรวจที่ลานจอดรถ ต่อมาลูกสาวของสกอตได้อัดวิดีโอเฟซบุ๊กไลฟ์ ระบุว่า ตำรวจยิงสกอตซึ่งกำลังอ่านหนังสืออยู่บนรถ โดยผู้ชุมนุมจำนวนมากได้เดินประท้วงไปตามย่านใจกลางเมือง มีการหยุดที่โบสถ์ของคนผิวสี และสถานีตำรวจ

สหภาพพลเรือนอเมริกัน องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้ตำรวจเปิดเผยภาพเหตุการณ์จากกล้องที่ติดตั้งในรถตำรวจ ส่วน เจนิเฟอร์ โรเบิร์ต นายกเทศมนตรีชาร์ลอตต์ จะดูภาพจากกล้องดังกล่าวในวันที่ 22 ก.ย.นี้

ขณะที่หัวหน้าตำรวจในเขตชาร์ลอตต์ ยืนยันว่า มีหลักฐานเป็นปืนของผู้เสียชีวิต และขณะนี้กำลังพยายามสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา และสเปรย์พริกไทย

ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ได้ต่อสายถึงนายกเทศมนตรีทั้งเมืองชาร์ลอตต์ และทุลซา รวมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงระงับการใช้ความรุนแรง ทั้งในเมืองชาร์ลอตต์และเมืองทุลซาของรัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในเวลาไล่เลี่ยกัน

ประท้วงผิวสีสหรัฐบานปลาย

ภาพ เอเอฟพี