สหรัฐลุยพัฒนาเนื้อทำจากพืชเตรียมเสิร์ฟร้านหรูในนิวยอร์ก

อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ สตาร์ทอัพเทคโนโลยีในสหรัฐเดินหน้าพัฒนาเนื้อที่ทำจากพืชต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเสิร์ฟในร้านอาหารหรูของนิวยอร์ก

เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ สตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านเนื้อเบอร์เกอร์ที่ทำจากพืช จากซิลิคอนวัลเลย์ ได้รับการพูดถึงอย่างมากในวงการอาหาร เนื่องจากความน่ารับประทานและมีลักษณะเหมือนเนื้อสัตว์จริงๆ ทั้งรูป กลิ่น และรส จนมีรายงานว่า กูเกิล บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก วางแผนจะซื้อสตาร์ทอัพดังกล่าว ด้วยมูลค่าระหว่าง 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7,000-1 หมื่นล้านบาท) แต่ทั้งสองไม่สามารถตกลงกันได้ ข้อตกลงควบรวมกิจการจึงล้มเหลวไป

อย่างไรก็ตาม อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ ก็ไม่ได้หยุดพัฒนาเนื้อจากพืช และเตรียมจะเสิร์ฟเนื้อดังกล่าวในร้านอาหารระดับหรูของนครนิวยอร์กในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าและเชฟจริงๆ นอกจากนี้ สตาร์ทอัพไฟแรงดังกล่าวยังเตรียมพัฒนาขยายจากการทำเนื้อวัวด้วยพืชไปยังเนื้อชนิดอื่นๆ เช่น เนื้อสเต๊ก เบคอน ปลา ไก่ นม และชีส

บริษัท อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ ระบุว่า วัตถุดิบลับของการทำให้เนื้อเบอร์เกอร์มีความเหมือนเนื้อจริงๆ คือ ฮีม หรือโมเลกุลธาตุเหล็กที่พบได้ทั้งในพืชและสัตว์ โดยฮีมในคนจะเรียกกันติดปากว่า ฮีโมโกลบิน เสียมากกว่า

“เพราะเบอร์เกอร์อิมพอสสิเบิลทำจากพืช จึงใช้ที่ดินน้อยกว่า น้ำน้อยกว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่าในการผลิตเมื่อเทียบกับเนื้อจริง พวกเราต้องการให้คนรุ่นต่อไปยังกินเบอร์เกอร์ได้อย่างอร่อยบนโลกที่สวยงาม”อิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ เปิดเผย

นอกจากอิมพอสสิเบิล ฟู้ดส์ แล้ว นิวเวฟฟู้ด สตาร์ทอัพเนื้อกุ้งจากพืช ในซานฟรานซิสโก ก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน โดยเนื้อกุ้งที่นิวเวฟฟู้ดกำลังพัฒนามีสาหร่ายสีแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพื่อจุดมุ่งหมายในการลดการทำประมงเกินขนาดและลดมลพิษทางทะเล

ทั้งนี้ ข้อมูลจากมาร์เก็ตแอนด์มาร์เก็ต บริษัทวิจัยตลาด ระบุว่า อุตสาหกรรมเนื้อจากห้องแล็บจะมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.75 แสนล้านบาท) ภายในปี 2020 หลังเทรนด์การรักสุขภาพ การลดการกินเนื้อสัตว์ และการใส่ใจสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง