posttoday

โปแลนด์ยอมรับพบ "รถไฟมหาสมบัตินาซี" จริงคาดซุกทอง300ตัน

31 สิงหาคม 2558

รัฐบาลโปแลนด์ยอมรับค้นพบรถไฟมหาสมบัติของนาซีแล้ว ถูกซ่อนในทางรถไฟลึกลับยาว4 กม. ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

รัฐบาลโปแลนด์ยอมรับค้นพบรถไฟมหาสมบัติของนาซีแล้ว ถูกซ่อนในทางรถไฟลึกลับยาว4 กม. ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

ในที่สุดรัฐบาลโปแลนด์ก็ยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วว่า การค้นพบขบวนรถไฟของนาซีเป็นเรื่องจริง หลังจากที่มีกระแสข่าวมาตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการยืนยันใดๆ สร้างความสับสนให้กับชาวโลกอย่างยิ่งว่า เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงการกุข่าวของนักล่าสมบัติกำมะลอ

ทว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เปียตร์ จูโชวสกี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของโปแลนด์ยืนยันว่า จากการใช้เรดาร์สำรวจพบรถไฟในตำนานถูกซุกซ่อนอยู่บนทางรถไฟลึกลับความยาว 4 กม. ใกล้กับเมืองวาลบ์จิก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถหุ้มเกราะแสดงถึงความเป็นไปได้ที่จะมีของมีค่าอยู่ในนั้น

รัฐมนตรีของโปแลนด์ยังเปิดเผยด้วยว่า ชายนิรนามรายหนึ่งซึ่งเคยเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการซุกซ่อนรถไฟขบวนดังกล่าว ได้เปิดเผยความลับนี้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไม่นาน และเมื่อช่วงต้นเดือนนี้มีกระแสข่าวว่า ชาวเยอรมันรายหนึ่งกับชาวโปแลนด์อีกรายหนึ่งแจ้งกับทางการว่า พบรถไฟในตำนานแล้วและขอส่วนแบ่งในการค้นพบ 10%

ทรัพย์สมบัติที่คาดว่าน่าจะถูกซ่อนไว้ภายในคือ ทองคำ 300 ตัน อัญมณี และศิลปวัตถุอันล้ำค่า ที่ตำนานท้องถิ่นเล่าว่า พวกนาซีขนย้านมาจากเมืองเบสเลาเพื่อหนีกองทัพโซเวียตที่รุกคืบเข้ามาในช่วงที่สงครามใกล้สิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม ทอม โบเวอร์ ผู้สื่อข่าวและนักเขียนเชิงสืบสวนชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของผลงานเรื่อง Nazi Gold: the Full Story of the Fifty-Year Swiss-Nazi Conspiracy to Steal (ทองคำนาซี : เรื่องจริงของการปล้นชิงนาน 50 ปีจากการสมคบระหว่างนาซี-สวิส) คาดว่า หนึ่งในสิ่งที่ซ่อนไว้ในขบวนรถไฟทองคำ น่าจะเป็นเครื่องประดับจากห้องอำพัน หรือ Amber Room อันล้ำค่า ที่พวกนาซีปล้นชิงมาจากพระราชวังแคทเธอรีน ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ระหว่างความพยายามรุกรานสหภาพโซเวียต

โบเวอร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสกายนิวส์ว่า หากเป็นขบวนรถที่บรรทุกศิลปวัตถุจริง ก็น่าจะมีภาพเขียนล้ำค่า อัญมณี เช่น เพชร พลอย หรือทับทิม และยังอาจจะมีอำพันจากห้องอำพันที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังพวกนาซีปล้นพระราชวัง แล้วบรรทุกพร้อมขบวนรถไฟไปยังเมืองเคอนิกสแบร์ก

ในเวลาต่อมากองทัพอากาศแห่งสหราชอาณาจักรส่งกองกำลังไปทิ้งระเบิดที่เมืองเคอนิกแบร์ก ในปี 1944 ทำลายปราสาทเคอนิกสเบิร์ก อันเป็นที่เก็บรักษาสมบัติจากห้องอำพันจนพินาศหมดสิ้น อย่างไรก็ตาม มีพยานบอกเล่าว่า ก่อนที่จะมีการโจมตีทางอากาศ มีการลำเลียงสิ่งของโดยขบวนรถไฟขนาด 40 โบกี้ออกจากปราสาท

โบเวอร์ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ขบวนรถไฟจากเคอนิกสแบร์ก จะเดินทางจากปรัสเซียตะวันออกผ่านเส้นทางกว่า 600 กม. มาถึงชายแดนโปแลนด์ใกล้กับสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งในช่วงสงครามเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมัน เพื่อนำของล้ำค่าให้พ้นจากเงื้อมมือของกองทัพสัมพันธมิตรที่รุกคืบตีแนวรบด้านตะวันตก รวมถึงกองทัพโซเวียตที่รุกตีแนวรบด้านตะวันออก

ปริศนาห้องอำพัน

ห้องอำพัน (Amber Room) แห่งพระราชวังแคทเธอรีน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก ด้วยความงดงามล้ำค่า ประดับด้วยอำพันถึง 6 ตัน ในพื้นที่ 55 ตร.ม. ทั้งยังมีการประดับประดาด้วยประติมากรรมแบบบาโรก ปิดทองคำเปลวและกระจก เรียกได้ว่า ห้องทั้งห้องทำด้วยอัญมณีและทองคำทำให้เหลืองอร่าม สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น

ห้องอำพันสร้างขึ้นในปี 1701 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 แต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังชาร์ลอตเตนบวร์ก กรุงบอร์ลิน แห่งอาณาจักรปรัสเซีย (เยอรมนีในปัจจุบัน) ในปี 1716 พระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย เสด็จเยือนกรุงเบอร์ลิน และทรงโปรดห้องอำพันเป็นอย่างมาก พระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มจึงถวายให้พระเจ้าปีเตอร์มหาราชเพื่อประสานสัมพันธไมตรี

เมื่อมาถึงรัสเซียแล้วยังไม่มีการติดตั้ง กระทั่งถึงสมัยจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งรัสเซีย พระราชธิดาของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช จึงได้มีการนำไปติดตั้งที่พระราชวังแคทเธอรีน อันเป็นพระราชวังฤดูร้อน ชานนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงยุคสหภาพโซเวียต

ในระหว่างสงครามโลก กองทัพนาซีได้ปิดล้อมนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กองทัพสหภาพโซเวียตพยายามซ่อนห้องอำพันโดยใช้วอลเปเปอร์เท่าที่จะหาได้ แต่ไม่สามารถตบตากองทัพนาซีได้ ซึ่งมีการค้นพบและใช้เวลาในการขนย้ายสิ่งของล้ำค่าในห้องอำพันเพียง 36 ชม. เพื่อนำกลับไปยังเยอรมนี แต่ในช่วงก่อนสิ้นสุดสงครามกลับสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ภาพห้องอำพันจาก wikipedia

ที่มา www.m2fnews.com