posttoday

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่

04 ตุลาคม 2558

จุดหมายการเดินทางคือเช่ารถขับท่องเที่ยวบนถนนสายที่เรียกว่าโรแมนติกสุดๆ สายหนึ่งของโลก

โดย...ปอย

จุดหมายการเดินทางคือเช่ารถขับท่องเที่ยวบนถนนสายที่เรียกว่าโรแมนติกสุดๆ สายหนึ่งของโลก เริ่มค้นข้อมูลเมืองเล็กๆ ถึง 20 กว่าเมืองเรียงรายสองข้างทางตามแนวถนนเส้นที่ได้ชื่อว่า ถนนเส้นโรแมนติกโรด ประเทศเยอรมนี อีกทริปสำคัญที่วางแผนต้องไปให้ได้สำหรับการฉลองครบรอบ 3 ปีชีวิตแต่งงานอารยา เฮงตระกูลสิน บอกเล่าให้เห็นภาพค่อยๆ ขับรถชมวิวสวยสองข้างทาง แวะเมืองโน้นออกเมืองนี้กันเพลินๆ ได้เลย และนี่คือสิ่งที่ทริปทัวร์ไม่มีให้คุณแน่นอน ซึ่งการเดินทางใช้เวลากว่า 10 วัน ที่ลางานได้เที่ยวถนนสายเดียวก็แอบเสียดาย จึงขอเพิ่มเมืองฮัลสตัทท์(Hallstatt) เมืองริมทะเลสาบโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงของออสเตรีย และเมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) อีกเมืองเล็กๆเงียบๆ ของสาธารณรัฐเช็ก รวมถึงเวียนนาเมืองแห่งเสียงดนตรีคลาสสิกที่มีมนต์เสน่ห์คลออยู่ทั่วมุมเมือง

ก่อนเข้าสู่เส้นทางโรแมนติกกันให้สุดๆ ไปเลย ขับรถไปในถนนสายท่องเที่ยวเก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมนี The Romantic Roadระยะทางราว 360 กม. เริ่มต้นจากทางเหนือที่เมือง Wurzburg จรดใต้ที่เมือง Fussen ใกล้ๆกับที่ตั้งของปราสาทนอยชวานชไตน์ ในแคว้นบาเยิร์น (Bayern) หรือที่เราคุ้นเคยในอีกชื่อบาวาเรีย (Bavaria)

ถนนขับรถชิลๆชมวิวบ้านเรือนสวยๆ

การเดินทางท่องเที่ยวในเยอรมนีมีความปลอดภัยสูง ยิ่งถ้ามีการวางแผนที่ดี ทริปนั้นก็จะกลายเป็นการเดินทางในความทรงจำเลยทีเดียว อารยา บอกว่าจองรถพร้อมคนขับให้มารับที่เมืองฮัลสตัทท์ มาลงที่เมือง Freilassingเมืองติดชายแดนระหว่างออสเตรียและเยอรมนีจากเดิมตั้งใจเช่ารถขับจากฮัลสตัทท์วิ่งยาวๆไปเลย แต่การหารถเช่าจากเมืองหนึ่งแล้วไปสิ้นสุดคืนรถที่อีกประเทศหนึ่ง มีจำนวนรถให้เลือกน้อยมาก พอเสิร์ชหาข้อมูลก็มีนักท่องเที่ยวใน Trip Advisor แนะนำวิธีนี้ซึ่งดีกว่ามาก ศูนย์ที่เลือกคือ Europe Car ของเมืองFreilassing มีรถเช่าให้เลือกมากกว่าอีกด้วยรายละเอียดเหล่านี้ถ้าวางแผนทำการบ้านมาดี ทริปก็ราบรื่นเกินร้อย

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่

 

“รถที่เราเช่าคือ VW Phaeton ราคาในไทยคันละกว่า 6 ล้านบาทเลยนะคะ สามีบอกขับสบายมากในราคาค่าเช่ารถที่แสนสบายกระเป๋า เพราะการรับและคืนรถภายในประเทศเดียวกันแค่ต่างเมืองก็ทำให้ค่าเช่ารถประหยัดลงได้กว่า 20-30% เลยค่ะ

วันแรกของการขับรถบนถนนสายโรแมนติก สองข้างทางสวยจริงๆ เส้นโค้งของถนน ต้นไม้ บ้านเรือนหลังคาสามเหลี่ยมที่มีเส้นตรง เส้นทแยงขีดพาดผ่านหลากสี เมืองแรกคือ Augsburg แวะหาเบียร์เย็นๆ แกล้มเมนูอาหารเยอรมันมื้อแรก สั่งเมนูพิซซ่า และไส้กรอกเยอรมัน ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสามของรัฐบาวาเรีย ร้านอาหารเป็นร้านริมถนนบรรยากาศดูชิลๆ ค่ะ พักสายตาสบายๆกับวิวบ้านเรือนมีเอกลักษณ์จั่วเพนต์ลวดลายสีสันสะดุดตา ถ่ายรูปเพลิน

จากความตั้งใจขับตามเส้นถนนโรแมนติกชมวิวให้เต็มที่ ก็มีอันต้องพลาดไปบ้างค่ะเพราะสามีที่เป็นพลขับ ไม่ยอมขับชิลๆ ช้าๆโค้งซ้ายขวาชมวิวงดงามของเมืองต่างๆ เขาบอกว่าขับแบบนั้นกลัวว่ามืดค่ำแล้วก็ยังไม่ได้เช็กอินถึงจุดหมาย คือ เมืองโรเธนเบิร์ก(Rothenburg) ตามที่จองไว้แน่ๆ ขอซิ่งขึ้นทางด่วนออโตบาร์นยิงยาวรวดเดียวแบบชั่วโมงเดียวถึงที่หมายดีกว่า ซึ่งระหว่างทางบนออโตบาร์นก็หลับยาวตลอดเพราะวิวถนนไม่มีอะไรน่าสนใจเลย สองข้างทางมีแต่ต้นสนๆๆๆ ชวนนอนยิ่งนัก (หัวเราะ) จนลงทางด่วนออโตบาร์นใกล้ๆ ถึงเมืองทรงเสน่ห์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ นั่นก็คือ Rothenburg Ob Der Tauberจึงเริ่มตื่นตาตื่นใจกับความน่ารักของบ้านเรือน

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่

 

เมืองโรเธนเบิร์ก ดิฉันขอรับรองเรื่องวิวที่ขอบอกว่าโรแมนติกม-า-ก สไตล์บ้านเรือนเมืองโบราณตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมือง ถนนสายแคบๆ นำ เรายิ่งใกล้ชดิกับประวัติศาสตร์เยอรมนี หลังจากเมืองอิสระนี้เกิดความมั่งคั่งจากการค้าไวน์ โคกระบือ และขนสัตว์ โรเธนเบิร์กได้กลายเป็นเมืองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1274

ที่นี่เราเช็กอินห้องพักโรงแรม TOP HotelGoldenes Fass โรงแรมสงบๆ มีที่จอดรถแสนสบาย เริ่มฤดูใบไม้ผลิมีต้นเชอร์รี่บลอสซั่มออกดอกสะพรั่งชวนให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ ระยะทางเดินเพียงแค่ 50 เมตร ก็ถึงตัวเมืองแล้วค่ะ”

จุดหมายปลายทางความฝัน

ภาพบ้านทรงแปลกสีเหลืองดูเหมือนบ้านในเทพนิยายจากอินสตาแกรมของพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง เหมือนในฝันที่ไม่น่าจะมีอยู่จริงในโลกได้ผ่านมานานบ้านหลังนั้นก็ยังตรึงในความทรงจำอยากไปเห็นด้วยตาให้ได้ บ้านเทพนิยายนี้จุดประกายให้เกิดทริปนี้ขึ้นมา อารยา บอกความฝันบรรจบความจริงได้แล้วในทริปนี้

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่

 

“บ้านเทพนิยายสีเหลืองตั้งอยู่บนถนนPlonlein เป็นจุดหมายปลายทาง และหนึ่งในไฮไลต์ทริปนี้ค่ะ ดิฉันถ่ายรูปรัวๆ กับบ้านหลังนี้ (หัวเราะ) เมื่อมาเห็นด้วยตาก็ยังรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ของบ้านที่ดึงดูดเราให้ใช้เวลาชิลๆ หน้าบ้านได้อย่างนานเลย พอฟ้าเริ่มมืดก็เลือกร้านอาหารหน้าโบสถ์สั่งเมนูไส้กรอกรวม สเต๊กเนื้อแกล้มโลคัลเบียร์นั่งชิลชมเมือง ช่วงที่ไปเดือนเม.ย.ประจวบเหมาะว่าเป็นช่วงเทศกาลอีสเตอร์ในยุโรป ทุกหน้าบ้านจัดดิสเพลย์ไข่อีสเตอร์สวยงามค่ะ

รุ่งขึ้นดิฉันวางแผนเดินขึ้นลงชมกำแพงรอบเมือง ตามกำแพงเมืองมีสลักรายชื่อคนหลายๆ ภาษา น่าจะเป็นการบริจาคซ่อมแซมเมือง ที่นี่ต้องมีไกด์ค่ะ ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ความสวยงดงามของโรเธนเบิร์กทำให้เมืองนี้รอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงครามของยุคกลางช่วงสายของวันเราไปเดินเล่นใน FarmerMarket ชาวเมืองนำของเก่าเหลือใช้แบบวินเทจมาออกร้านขายของในราคาถูก ทั้งของใช้ในบ้าน ของตกแต่ง ของเล่น ผลไม้ เบเกอรี่ดิฉันได้ชุดเซตที่รองแก้วทำจากโลหะสีเงินวาดลายดอกไม้ดูหรูหรางามมากรวม 10 กว่าชิ้นต่อรองได้ในราคา 10 กว่ายูโร มาครอบครองปลื้มมากค่ะ (ยิ้มปลื้มยืนยัน)

เมืองนี้มีกิจกรรมค่ำคืนที่ไม่น่าพลาด ร่วมจอยทัวร์กับ Watchman ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมหยักศกยาวประบ่าในชุดเสื้อคลุมสีดำเดินเข้ามาที่หน้า Rathus (ศาลากลางเมือง)มือซ้ายเขาถือตะเกียงสอดส่องกับ Halberdถ้าเกิดไฟไหม้ก็ทำหน้าที่เป่าแตรเขาสัตว์เตือนชาวเมืองที่หลับใหลให้ออกมาช่วยกันดับไฟซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในเมืองที่สมัยก่อนแสงสว่างยามค่ำคืนต้องพึ่งด้วยแสงเทียน เขาเล่าว่า ในสมัยโบราณมี 3 อาชีพที่นับเป็นอาชีพที่ต่ำที่สุด ได้แก่ เพชฌฆาตสัปเหร่อ และ Night Watchman ในเมืองโรเธนเบิร์กมีทั้งหมด 6 คน ทำหน้าที่เดินตรวจตราและเฝ้าประตูเมืองตามจุดทั้งหมด 6จุด ตอนนี้เหลือเพียงเขาคนเดียว สมัยก่อนเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจและไม่มีใครอยากทำเพราะความเชื่อถือโชคลางอาชีพที่ต้องทำยามดึกดื่น เกี่ยวข้องกับความมืด ความตายมันเป็นอาถรรพ์ เป็นลางร้าย

เช้าวันรุ่งขึ้นจุดมุ่งหมายปลายทางคือเมืองFussen ทางตอนใต้ของถนนสายโรแมนติก จากการหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต มีเมืองเล็กๆ น่าสนใจที่ต้องขับขึ้นทางเหนือประมาณ 10 กม.เพื่อแวะชมเมือง Weikersheim ที่นี่มีปราสาทขนาดใหญ่โตโอ่อ่าอลังการ ชื่อ ไวแกร์สไฮน์(Schloss Weikersheim) ตามประวัติบอกว่าปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของบรรดาเจ้าชายในราชวงศ์โฮเฮิน ลู สร้างโดยท่านเคาท์วูฟกังที่สอง ในช่วงศตวรรษที่ 16 ในสไตล์เรอเนสซองซ์ ที่นี่เป็นเมืองประทับใจแบบเซอร์ไพรส์ๆ นะคะ ตอนเดินหาปราสาทนี้ก็ไปจอดรถใกล้ๆ จัตุรัสกลางเมือง เดินไปเรื่อยก็ไม่ได้เห็นว่าจะมีปราสาทยิ่งใหญ่เหมือนที่หาข้อมูลมาเลยค่ะ จนกระทั่งเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในนั่นล่ะค่ะ ได้เข้าไปชมห้องหับแต่ละห้องช่างอลังการ แล้วที่โดดเด่นคือสวนสวยมาก กว้างสุดลูกหูลูกตาอย่างที่ไม่คาดฝันว่าจะสวยได้ขนาดนี้” อารยา เล่ารื้อฟื้นทริปในความทรงจำและย้ำว่านี่คืออรรถรสที่ขับรถออกไปสู่โลกกว้าง

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่

 

เมืองติดอันดับโลก ‘โรแมนติกโรด’ บันทึกความหวานชีวิตคู่