posttoday

ยธ.พบชาวบ้านชัยภูมิถูกนายทุนหลอกจำนวนมาก

21 สิงหาคม 2560

รมว.ยุติธรรม เร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ชาวบ้านชัยภูมิ พบถูกนายทุนหลอก ขอเช่าโฉนดที่ดิน ปลอมลายเซ็น

รมว.ยุติธรรม เร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ชาวบ้านชัยภูมิ พบถูกนายทุนหลอก ขอเช่าโฉนดที่ดิน ปลอมลายเซ็น

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ว่าการอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ  นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางกรรณิการ์ แสงทอง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์  นางสาวรื่นวดี  สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม  ลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนประชุมขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในจังหวัดชัยภูมิ ภายใต้โครงการยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน ครั้งที่ 6 /2560

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายมุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนทุกระดับ ทุกพื้นที่ สนับสนุนและบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันกับศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมกับชุมชน ในรูปแบบ “ยุติธรรมชุมชน” โดยในปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิมีการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน 142 ศูนย์ และมีการพัฒนาเครือข่ายยุติธรรมชุมชนและคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ให้มีศักยภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่และการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ในชุมชน รวมถึงให้บริการประชาชนของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม โดยมีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยภูมิเป็นหน่วยงานอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ตามอำนาจหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในด้านกฎหมาย สิทธิและเสรีภาพ และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ของกระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากพบว่าประชาชนประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความยุติธรรมเป็นจำนวนมาก โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มีผู้ขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย จำนวน 172 ราย มีผู้มายื่นขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม จำนวน 58 ราย มีผู้เสียหายจากกระบวนการยุติธรรมมาขอรับการเยียวยาในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 จำนวน 237ราย และมีผู้ร้องขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สิน ภาคประชาชน จำนวน 554ราย

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เมื่อเทียบจำนวนผู้ขอรับบริการด้านงานยุติธรรมในจังหวัดชัยภูมิกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเทียบเป็นสัดส่วนต่อประชากร 1 แสนคน พบว่า มีผู้ขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย มีสัดส่วน 15.11 ราย ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วน 5.09 ราย ผู้เสียหายจากกระบวนการยุติธรรมมาขอรับการเยียวยาในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วน 20.8 ราย ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สินภาคประชาชนในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วนถึง 48.67 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีประชาชนในจังหวัดชัยภูมิเข้ามาขอรับความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมในสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะการร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้สินภาคประชาชนที่มีจำนวนผู้ร้องเรียนมากที่สุด และคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรสูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาการไม่ได้รับความเป็นธรรมที่สำคัญในจังหวัดชัยภูมิ คือ การถูกเจ้าหนี้นอกระบบหลอกลวงเกี่ยวกับการทำนิติกรรม และการหลอกลวงขอเช่าโฉนดที่ดินจากประชาชนเพื่อนำไปขายฝาก โดยกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในจังหวัดชัยภูมิ จำนวน30 เรื่อง (ปี 2553 -2560) มีผู้ร้องเรียน/ผู้เสียหาย จำนวน 554ราย และมีทุนทรัพย์รวม 151,196,548บาท ซึ่งพฤติการณ์ของเจ้าหนี้นอกระบบดังกล่าวมีทั้งการทำสัญญากู้ยืมเงินในจำนวนเงินสูงกว่าความเป็นจริง การเพิ่มจำนวนเงินกู้ภายหลังการทำสัญญา การคิดดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด การบังคับให้ทำบัตรถอนเงินสดให้เจ้าหนี้ยึดถือเพื่อถอนเงินชำระหนี้เอง รวมถึงการหลอกลวงให้ทำสัญญาขายฝากที่ดิน

ในการแก้ไขปัญหาการไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมได้ให้ความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในการต่อสู้คดีไปจำนวน 21 ราย (ต.ค. 59-มิ.ย. 60) และได้ตรวจสอบพฤติการณ์เจ้าหนี้เพื่อส่งเรื่องให้ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่มีการปลอมลายมือชื่อลูกหนี้ในเอกสารกู้ยืมเงิน และมีการใช้มาตรการทางภาษีและดำเนินคดีฐานเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงินอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานเพื่อจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี และดำเนินการร่วมกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และกระทรวงยุติธรรมได้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่ประชาชนเกี่ยวกับการวางทรัพย์ในการขายฝาก และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายพื้นฐานเกี่ยวกับการกู้ยืม การจำนอง การบังคับคดี และการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาททางแพ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวพันธุ์ พร้อมคณะผู้บริหาร  ได้ลงพื้นที่ ณ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เพื่อพบปะประชาชน รวมทั้งรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการให้บริการของกระทรวงยุติธรรมให้ตรงตามความต้องการของประชาชน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559) ให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 16 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,244,895 บาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาในจังหวัดชัยภูมิแล้ว รวมทั้งสิ้น 121 ราย เป็นจำนวนเงิน 6,678,518 บาท