posttoday

ทาวน์เฮาส์มือสองยอดพุ่ง60%

21 ธันวาคม 2558

ยอดโอนบ้านมือสองพุ่ง ทาวน์เฮาส์โตกว่า 60% เหตุบ้านใหม่แพง ซัพพลายบางที่มีน้อย

ยอดโอนบ้านมือสองพุ่ง ทาวน์เฮาส์โตกว่า 60% เหตุบ้านใหม่แพง ซัพพลายบางที่มีน้อย

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบ้านมือสองปี 2558 เติบโตมาก โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์มือสองเห็นได้จากตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 10 เดือนแรกของปีนี้ ที่อยู่อาศัยที่โอนจากบุคคลธรรมดา รวมทั้งหมด 60,452 หน่วย เติบโต 31.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังพบว่าทาวน์เฮาส์มีจำนวนการโอนมากที่สุด 24,980 หน่วย และเติบโตถึง 62.6% ซึ่งเติบโตมากที่สุดในกลุ่มที่อยู่อาศัยทุกประเภท รองลงมาคือ ห้องชุด 13,191 หน่วย เติบโต 12.6% ตามด้วย บ้านเดี่ยว 12,500 หน่วย เติบโต 13.5% และอื่นๆ 9,781 หน่วย เติบโต 22%

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองขยายตัวมาก อาจเป็นเพราะราคาที่อยู่อาศัยใหม่ค่อนข้างสูง ส่วนทาวน์เฮาส์มือสองที่เติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานของปีที่แล้วอาจจะไม่สูงมาก และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะในหลายทำเลไม่มีโครงการทาวน์เฮาส์ใหม่เปิดตัว จึงทำให้ทาวน์เฮาส์มือสองในพื้นที่นั้นๆ ได้รับความนิยมมาก

ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันทาวน์เฮาส์มือสองของสถาบันการเงินหลายแห่งมีนักลงทุนสนใจซื้อแล้วนำไปปรับปรุงเพื่อขายต่อ ซึ่งหากเป็นทำเลที่ดีและปรับปรุงใหม่ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีมาก

สำหรับตลาดห้องชุดมือสอง พบว่า 5 พื้นที่ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจากบุคคลธรรมดา 10 เดือนแรกของปีนี้ ประเมินในเชิงหน่วย ได้แก่ เขตจตุจักร 531 หน่วย คิดเป็นมูลค่า​ 994 ล้านบาท รองมาคือ เขตคลองเตย 500 หน่วย คิดเป็นมูลค่า ​2,696 ล้านบาท ตามด้วย เขตคลองสาน 195 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,107 ล้านบาท เขตคลองสามวา 30 หน่วย คิดเป็นมูลค่า​ 11 ล้านบาท และเขตคันนายาว 18 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 19 ล้านบาท

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจากนิติบุคคล 10 เดือนแรกปี 2558 มีจำนวน 83,965 หน่วย ลดลง 9.9% แบ่งเป็นห้องชุด 39,973 หน่วย ลดลง 7.7% ทาวน์เฮาส์ 25,644 หน่วย ลดลง 8.7% บ้านเดี่ยว 11,561 หน่วย ลดลง 22.2% และอื่นๆ 6,787 หน่วย ลดลง 2.6%

ด้านภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ​ และปริมณฑล 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) ของปีนี้ รวม 425 โครงการ จำนวน 102,920 หน่วย ลดลง 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 277 โครงการ 43,630 หน่วย เพิ่มขึ้น 2.8% และคอนโด มิเนียม 148 โครงการ 59,290 หน่วย ลดลง 10.5%

“บ้านจัดสรรเปิดตัวมากขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขเปิดตัว 6 เดือนแรก ยังติดลบถึง 7.4% แต่ติดลบลดลงต่อเนื่องจนเป็นบวกในที่สุด เพราะผู้ประกอบการหลายรายหันมาเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น ต่างจากคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในไตรมาสแรกที่ยังเติบโต แต่พอถึงครึ่งปีหลังเริ่มติดลบ เพราะผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลง เนื่องจากซัพพลายในตลาดเหลือเยอะ”

นายสัมมา กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.12 แสนหน่วย ลดลงจากปีที่แล้วที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด 1.18 แสนหน่วย โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 6.5 หมื่นหน่วย ลดลงจากปีที่แล้วอยู่ที่ 7.3 หมื่นหน่วย และบ้านจัดสรรเปิดใหม่ 4.7 หมื่นหน่วย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 4.5 หมื่นหน่วย ขณะที่ภาพรวมปี 2559 ประเมินว่าการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย โดยคอนโดมิเนียมคาดว่าจะเปิดตัวน้อยลง เพราะซัพพลายในตลาดยังมีอีกมาก

ด้านปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในปีหน้ามาจากภาวะเศรษฐกิจ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ราคาพืชผลการเกษตร การประกาศราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ที่ใช้ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2559-31 ธ.ค. 2563 รวมถึงมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่จะสิ้นสุด 28 เม.ย. 2559