"วิทยา"จี้เปิดผลสอบปมซื้อขานตำแหน่งตำรวจภาค8
"วิทยา แก้วภราดัย" จี้สตช.เปิดเผยผลสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่งตำรวจภาค 8 แนะ นายกฯ อย่าซื้อเวลาปฏิรูปตำรวจ
"วิทยา แก้วภราดัย" จี้สตช.เปิดเผยผลสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่งตำรวจภาค 8 แนะ นายกฯ อย่าซื้อเวลาปฏิรูปตำรวจ
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิก สปท กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยผลสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หลังจากที่มีการแต่งตั้งจเรตำรวจเข้ามาทำการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว คิดว่าขณะนี้ควรมีความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ได้ให้ความเห็นกับทีมจเรตำรวจที่ได้เดินทางมาสอบสวนหลายฝ่ายว่า สิ่งต้องทำคือการสอบปากคำพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย ในฐานะผู้ที่มีข้อมูลในการโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้ที่มีข้อมูลดีที่สุด อยากทราบว่าจนถึงขณะนี้ทางพล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติได้สอบปากคำผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วหรือไม่
"สังคมกำลังติดตามว่าความคืบหน้าในการซื้อขายตำแหน่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ว่าไปถึงไหนแล้ว เป็นเรื่องใหญ่มาก และเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งในฤดูกาลโยกย้าย และขอติงว่าจะสอบกันอย่างไรก็ตามหรือจะอุ้มอย่างไรก็ตาม เพราะสังคมไม่ให้น้ำหนักเนื่องจากตำรวจสอบตำรวจกันเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสอบและคนถูกสอบเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน น้ำหนักตรงนี้ต้องลดไป"นายวิทยา กล่าว
นายวิทยากล่าวอีกว่า ปัญหาต่อไปแม้ว่าจะปิดคดีในภาค 8 จบ ท่านคิดว่าจะจบหรือไม่ ปิดปัญหาภาค 8 จบก็ยังไม่จบ ตนจะเผยภาคอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมเดียวกันต่อไป และจะเอารายละเอียดทั้งหมดมาแสดง ทางที่ดีที่สุดนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีวิษณุ เครืองาม อย่าซื้อเวลาการปฏิรูปตำรวจ เพราะหมดเวลาแล้ว อยากเรียกร้องให้เร่งปฏิรูปตำรวจ มิเช่นนั้นส.ค.-ก.ย. ที่จะถึงนี้ เรื่องนี้กลับมาอีก อย่าทำให้ตำรวจดีๆ ต้องท้อถอยหมดกำลังใจ ควรยุติเรื่องนี้ได้แล้ว
นายวิทยา ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำและเอาคืนตามมาตรา 44 อีกครั้งคือการสั่งยกเลิกบัญชีโยกย้ายครั้งที่ผ่านมา และยุติการโยกย้ายตำรวจจนกว่าการปฏิรูปตำรวจจะเสร็จสิ้น ไม่เช่นนั้นเราจะได้การปฏิรูปตำรวจกลับในสภาพที่ขาดวิ่นไปหมดแล้ว ช่วยกันรักษาดีกว่าตำรวจดีๆ เขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติ ขอร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจที่มีจัดการปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนด้วย