“วิษณุ” เผย “มีชัย” รอให้คำตอบนายกฯโดยตรง

“วิษณุ” เผย “มีชัย” รอให้คำตอบนายกฯโดยตรง นั่ง-ไม่นั่งประธาน กรธ.  รับ   กรธ.เน้นหลากหลายกลุ่ม เสียดายหากเพื่อไทยไม่ร่วม สปท.

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทาบทาม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าตอนนี้ นายมีชัย ทราบถึงเจตนารมณ์ ของรัฐบาลแล้ว นายมีชัยคงกำลังคิดอยู่ ระหว่างนี้เราก็ลองดูคนอื่นพลางๆก่อน ซึ่งไม่ได้ดูแต่ตัวประธานต้องสูสมาชิก กรธ.ทั้ง 21 คนด้วย มีหลายคนที่ไปทาบทามบุคคลต่างๆ ซึ่งต้องมากกว่า21 คน โดยตนทาบทามประมาณ 6-7 คน คนอื่นๆอีกรวมแล้วประมาณ 30-40 คน สุดท้ายหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้พิจารณา ตามความเหมาะสม ไม่ใช่ดูเฉพาะคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวเท่านั้น เช่นจะเอา คนที่เคยเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือไม่ จะเอา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หรือไม่ คนรุ่นเก่ากี่คน รุ่นใหม่กี่คน เพราะฉนันจะเปิดเผยชื่อตอนนี้ยังไม่ได้ ถ้าหัวหน้าคสช.ไม่เลือก ก็จะเกิดความเสียหาย จึงต้องทำให้ละเมียดละไม ให้เจ้าตัวเขารู้ตัวซักนิด แต่ไม่รับปากว่าจะได้ และเขาก็ไม่รับปากว่าจะเอา ยอมรับว่า แม้จะมีการทาบทามจำนวนมาก ก็ยังมีความลำบากใจอยู่ เพราะยังไม่ตอบรับกันทุกคน ยังมีเงื่อนไขต่างๆ อยู่ 

เมื่อถามย้ำว่า นายมีชัย แบ่งรับแบ่งสู้ หรืออย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า“แบ่งสู้มากกว่าแบ่งรับ แล้วนายมีชัยจะเป็นผู้บอกกับนายกฯอีกทีหนึ่ง เพราะจะปฏิเสธหรือรับ ผ่านคนอื่นก็ไม่ดี” ถามอีกว่าสังคมอยากให้เอาคนที่น่าเชื่อถือ นายวิษณุกล่าวว่า “ทราบว่าสังคมอยากได้คนน่าเชื่อถือ ทำให้มีความหวังในสังคม แต่มันต้องผสมกันหลายๆ อย่าง จะเอาแบบโลกสวยหมดก็ไม่ได้ โลกร้ายหมดก็ไม่ได้”

พร้อมกันนี้นายวิษณุยังกล่าวถึงการสรรหาสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า เรื่องนี้ตนไม่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าได้มาเยอะพอสมควรแล้ว มีคนดูอยู่ ทั้งนี้มีบางพรรคการเมืองขนาดเล็กส่งรายชื่อมาให้ตน เลยต้องส่งต่อไปให้คนที่มีหน้าที่ ใครอยากจะส่งรายชื่อเป็นสมาชิกสปท. ก็ให้ส่งไปที่คสช.โดยตรง ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าไม่เข้าร่วมเป็นสปท.นั้น ก็ไม่เป็นไรพอตนพูดอย่างนี้ แต่ก็จะมีหนังสือพิมพ์บางฉบับบอกว่าตนไม่แคร์ ไม่ง้อ ซึ่งไม่ได้หมายความเช่นนั้น อยากจะร่ำไห้ด้วยซ้ำ ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเขาไม่สนใจก็ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะเป็นโอกาสที่จะเข้ามาเสนอผลักดันเรื่องต่างๆได้หลายอย่าง อย่างน้อยก็เป็นเวทีที่จะพูดอะไรออกมาให้ได้ยินทั้งประเทศ