บีแอนด์เจรุกเซรั่ม ออนไลน์ไปร้านค้า
บี แอนด์ เจ กรุ๊ป สบช่องตลาดเครื่องสำอาง โตสวนเศรษฐกิจชะลอ ส่งเซรั่มน้ำแร่โชลุยตลาด
บี แอนด์ เจ กรุ๊ป สบช่องตลาดเครื่องสำอาง โตสวนเศรษฐกิจชะลอ ส่งเซรั่มน้ำแร่โชลุยตลาด
นายณัฐพฤทธ์ ตีระพิพัฒนะกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท บี แอนด์ เจ กรุ๊ป เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำแร่โช เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางในปีนี้ คาดจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ตลาดเครื่องสำอางยังสามารถเติบโตได้ที่ 5% ใกล้เคียงกับทุกปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการผลิตเครื่องสำอางในกลุ่มเวชสำอางภายใต้แบรนด์ โช (SHO) เข้ามาทำตลาด โดยสินค้าตัวแรกที่มีการเปิดตัวเข้ามาทดลองทำตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา คือ ผลิตภัณฑ์เซรั่มน้ำแร่ หลังจากนำสินค้าเข้าทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากบริษัทได้วางตำแหน่งสินค้าไว้ในระดับพรีเมียมแต่ราคาเข้าถึงได้ง่าย คือขนาด 20 มล. ราคา 1,200 บาท ซึ่งปัจจุบันขนาดและราคาสินค้า
ดังกล่าวยังไม่มีใครผลิตเข้ามาทำตลาด
สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มประเทศที่บริษัทให้ความสนใจ คือ อินโดจีน เช่น จีน เวียดนาม และ สปป.ลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพโดยเฉพาะประเทศจีน เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก โดยล่าสุดบริษัทได้ส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายแล้วผ่านบริษัท ไทยแลนด์ ฟังหัว อินดัสเทรียล ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายประจำประเทศจีน ส่วน สปป.ลาว และเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มเข้าไปทำตลาดได้ในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายในประเทศไปยังร้านค้าปลีกอย่างร้านบู๊ทส์ ร้านวัตสัน และร้านอีฟแอนด์บอย ขณะเดียวกันก็จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 3 รายการเข้ามาทำตลาด เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ครีมและสเปรย์กันแดด หลังจากขยายช่องทางขายต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้จะมีรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท