posttoday

‘พีระพงศ์ จรูญเอก’ วันว่างยกให้สมาชิกที่บ้านเป็นใหญ่

17 ตุลาคม 2558

“พีระพงศ์ จรูญเอก” อายุ 39 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

“พีระพงศ์ จรูญเอก” อายุ 39 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมตามแนวส่วนต่อขยายสถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และเพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมานี้

แม้เขากับภรรยา “อารดา จรูญเอก” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ได้ช่วยกันก่อตั้งบริษัทขึ้นมา และเพียงไม่กี่ปีก็สร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด จึงไม่แปลกใจที่เวลาว่างหรือวันว่างทั้งหมดของหัวหน้าครอบครัวคนนี้ จึงเลือกให้เวลาที่ว่างทุกครั้งกับสมาชิกคนในครอบครัวเป็นลำดับแรก

โดยเฉพาะกับลูกๆ ทั้งสองคนที่กำลังอยู่วัยน่ารัก คนโตเป็นลูกสาว น้องรดา หรือน้องนีน่า อายุ 8 ขวบ กับลูกชายคนสุดท้อง น้องพีระ หรือน้องนิทาน วัย 6 ขวบครึ่ง

เจ้าตัวบอกว่า ทุกเสาร์-อาทิตย์ ถ้าเป็นไปได้จะใช้เวลาอยู่กับลูก ส่วนใหญ่จะให้เด็กๆ เป็นคนเลือกว่า เขาอยากทำกิจกรรมอะไรบ้าง เราจะตามเขาเลย ซึ่งก็จะมีหลายกิจกรรมที่ร่วมกันทำตลอดมีตั้งแต่ไปดูภาพยนตร์ ไปดูคอนเสิร์ตที่ลูกๆ ชอบ เพราะลูกๆ ชอบดูการประกวดการแข่งขันร้องเพลงอย่างรายการเดอะสตาร์

สำหรับสถานที่ที่อยากพาลูกๆ ไปเที่ยว คือตั้งแต่ภูเขา ทะเล เพราะอยากให้เขาได้สัมผัสกับธรรมชาติ ได้เจอที่แปลกใหม่ตลอดเวลา เวลาว่างเขาก็ควรได้ไปเจออะไรเรียนรู้ใหม่ๆ ในเวลาที่เราไปด้วยเขาก็จะได้ถามได้มีเวลาที่ใช้ร่วมกันในสมาชิก 4 คน พ่อแม่และลูก เพียงแค่นี้ก็ช่วยชาร์จแบต หรือพลังให้เราได้แล้ว

‘พีระพงศ์ จรูญเอก’ วันว่างยกให้สมาชิกที่บ้านเป็นใหญ่

 

นอกจากนั้น ก็มีทริปที่พาเด็กๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการเลือกทริปของคุณพ่อเองที่อยากไปเที่ยวอยู่แล้วด้วยมั้ง (หัวเราะ) แต่ก็พยายามเลือกสถานที่ที่ต่างกันออกไป เพราะเขาก็จะได้เจอะเจอและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ สถานที่แปลกใหม่ และได้เห็นว่าความแตกต่างของสถานที่และวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกัน แม้เขาจะได้เจอความหลากหลายของวัฒนธรรมที่โรงเรียนของเขาอยู่แล้ว เพราะเด็กๆ เรียนโรงเรียนภาคภาษาอังกฤษ(อินเตอร์)

อย่างไรก็ดี ถ้ามีเวลาส่วนตัวของตัวเอง สิ่งที่เขามักเลือกจะทำเป็นหลักนั่นคือ การอ่านหนังสือ พวกพ็อกเกตบุ๊กทั่วๆ ไป โดยส่วนตัวอ่านหนังสือได้หลากหลายแนวที่ผ่านมามีหมด ทั้งแนวจิตวิทยา อาหาร ฮาวทู ปรัชญาการลงทุนอย่างหุ้น หรือนิยายทั่วไป

รวมถึงหนังสือแนวการบริหารก็สามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานของเราด้วย แม้เขาจะผ่านงานบริหารองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว แต่พนักงานของบริษัทปัจจุบันก็จะมีอายุเฉลี่ยที่ 28-29 ปี เท่านั้น เราก็ต้องเลือกบางมุมหรือบางส่วนมามอง แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางให้เข้ากับลักษณะหรือวัฒนธรรมองค์กร แต่หลักๆ การบริหารของเขาเชื่อว่า การเปิดโอกาสให้พนักงานปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมา เชื่อในฝีมือการทำงานของเขา โดยให้มองข้ามเรื่องอายุที่น้อยเขาไปให้หมด เขาจะมีแรงขับและเป้าหมายในการทำงานได้เป็นอย่างดี

แต่หากจะให้เลือกมากที่สุด คงเป็นหนังสือแนวสไตล์ที่เกี่ยวกับทหาร สืบสวนสอบสวน เพราะชอบอ่านที่มีอะไรลึกลับซับซ้อน มีอะไรให้น่าค้นหาติดตามตลอด และในหลายเรื่องเราก็เพิ่งได้รู้ว่าแนวทางการคิดหรือมุมมองของทหารเป็นเรื่องที่เราได้รับรู้ใหม่ อ่านแล้วรู้สึกสนุกดี